Test with TikTok: วิธีเพิ่มมูลค่าโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

28 มิถุนายน 2022

TikTok For Business

TrendsInsightsBest Practices

Test with TikTok เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ลงโฆษณาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) สามารถสร้างความสำเร็จมากยิ่งขึ้นด้วยโซลูชัน TikTok for Business ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถโฟกัสไปที่การ ออกแบบและพัฒนาแคมเปญตามที่คุณต้องการ โดยมี TikTok ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ โซลูชันของเราให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งยังช่วยเตรียมกลุ่มเป้าหมายสำหรับ โฆษณาของคุณบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ดังนั้น เราจะแชร์เทคนิคและเคล็ดลับการพัฒนาแบรนด์ เพิ่มยอดขาย และขยายธุรกิจของคุณบน TikTok.

ROAS เป็นตัวชี้วัดทางการตลาดที่ใช้วัดรายได้ที่เกิดขึ้นต่อหนึ่งดอลลาร์ที่ใช้จ่ายในแคมเปญโฆษณา ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าใจในภาพรวมว่าแคมเปญดังกล่าวคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่

การคำนวณ ROAS นั้นง่ายมาก คือนำรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยตรงจากแคมเปญโฆษณา หารด้วยค่าใช้จ่าย ทั้งหมดของแคมเปญ

ในฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า มีกลยุทธ์การเสนอราคาให้เลือก 2 ประเภทดังนี้:

- ROAS ขั้นต่ำ: แพลตฟอร์มจะมุ่งเป้าไปที่โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุด เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เท่ากับหรือเกิน กว่ามูลค่า ROAS ขั้นต่ำที่ผู้ลงโฆษณากำหนด จุดสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพอยู่ที่ระดับธุรกรรม ไม่ใช่ระดับงบประมาณโดยรวม ดังนั้น การใช้แนวทางนี้อาจไม่ทำให้เกิดการใช้งบประมาณแคมเปญอย่างเต็มประสิทธิภาพ

- มูลค่าสูงสุด: สำหรับกลยุทธ์การเสนอราคานี้ แพลตฟอร์มตั้งเป้าที่จะใช้งบประมาณแคมเปญให้เต็มจำนวน ในขณะเดียวกันก็กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดไปพร้อมกัน

กรณีศึกษา 1: อุตสาหกรรมการเงิน

ความเป็นมา 
บริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์จากประเทศอินโดนีเซียต้องการปรับปรุง ROAS ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในการทดสอบการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า ผู้ลงโฆษณาได้ดำเนินการสองแคมเปญและเปรียบเทียบผลลัพธ์ แคมเปญแรกใช้การเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาแบบมูลค่าสูงสุด แคมเปญที่ 2 ใช้ฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมแอปของ TikTok โดยเน้นที่การเพิ่มกิจกรรมการซื้อ
 
ผลลัพธ์
แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าเป็นเวลา 1 สัปดาห์ของแบรนด์มีค่าใช้จ่ายเป้าหมายต่อการได้มาซึ่งลูกค้า (CPA) ที่ต่ำกว่าถึง 45% เมื่อเทียบกับแคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมแอป รวมถึงมีการซื้อเพิ่มขึ้น 114%, มูลค่าการสั่งซื้อรวมเพิ่มขึ้น 124% และมูลค่าต่อการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 5% แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า ยังทำให้ ROAS สูงขึ้น 72% ซึ่งบ่งชี้ว่าฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยเพิ่ม ROAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการเพิ่ม ประสิทธิภาพกิจกรรมแอป ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายอื่นๆ

กรณีศึกษา 2: อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

ความเป็นมา
สตาร์ทอัพธุรกิจสกินแคร์เฉพาะบุคคลต้องการเข้าถึงผู้ใช้ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเพื่อเพิ่ม ROAS ของแคมเปญไปพร้อม
กับการสร้างฐานผู้ใช้ ผู้ลงโฆษณาตั้งค่าทั้งแคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าด้วยกลยุทธ์การเสนอราคา
แบบมูลค่าสูงสุดและแคมเปญที่มีวัตถุประสงค์ด้านคอนเวอร์ชันเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
 
ผลลัพธ์
หลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่ามี CPA ที่ต่ำกว่า 17% เมื่อเทียบกับแคมเปญที่มี วัตถุประสงค์ด้านคอนเวอร์ชัน ซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุนมากกว่า มูลค่าการสั่งซื้อรวมเพิ่มขึ้น 36% และมูลค่าต่อ การสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 13% นอกจากนี้ แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่ายังมี ROAS เพิ่มสูงขึ้น 35% ซึ่งตอบ โจทย์วัตถุประสงค์หลักของการเลือกใช้ฟีเจอร์นี้

กรณีศึกษา 3: อุตสาหกรรมเกม

ความเป็นมา
แบรนด์ผู้ผลิตเกมต้องการเพิ่ม ROAS ให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมกับปรับตำแหน่ง TikTok ในหลายประเทศ เพื่อเลือกกลยุทธ์การใช้สื่อที่ดีที่สุดสำหรับแคมเปญ ผู้ลงโฆษณาตั้งค่าแคมเปญโดยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพ ตามมูลค่าด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาแบบมูลค่าสูงสุด และแคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมแอปโดยมุ่งเน้น ไปที่กิจกรรมการสั่งซื้อ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
 
ผลลัพธ์
หลังจากประสบความสำเร็จมาหลายสัปดาห์ แบรนด์ผู้ผลิตเกมได้ขยายการทดสอบไปใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ ROAS ขั้นต่ำ เมื่อพิจารณากลยุทธ์การเสนอราคาทั้งสองแล้ว แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าสามารถ สร้างมูลค่าต่อการสั่งซื้อได้สูงกว่าแคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมแอปถึง 129% และ ROAS เพิ่มขึ้น 67% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นการดำเนินการแคมเปญที่คุ้มค่ามาก

กำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำจากค่าโฆษณาที่สมเหตุสมผลเป็นราคาเสนอของคุณสำหรับกลุ่มโฆษณาการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า
- ใช้ผลงานของบัญชีโฆษณาของคุณในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมาเพื่อคำนวณ ROAS จากนั้นระบุราคา เสนอสำหรับ ROAS ขั้นต่ำของคุณที่ ~80% ของราคานั้น
- แจกแจงผลลัพธ์ข้อมูลแคมเปญที่ผ่านมาของคุณตามวัตถุประสงค์และประเทศ เพื่อให้ได้ตัวเลข ROAS ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มโฆษณาการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าของคุณ
- เริ่มจากใช้ 10*CPA
- หาก CPA ของคุณ >100 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ใช้วิธีอื่นในการคำนวณงบประมาณของกลุ่มการ โฆษณา คุณอาจย้อนกลับไปดู CPA ของแคมเปญก่อนหน้าเพื่อใช้เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ

กำหนดผู้ชมเป้าหมายที่สมเหตุสมผล
- อย่าตั้งเป้าหมายที่กว้างหรือแคบเกินไปในการกำหนดขอบเขตผู้ชม
- คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองหรือกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันที่มีประสิทธิภาพสูง

ปล่อยให้แคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าของคุณทำงานอย่างน้อย 7 วัน

- ผลลัพธ์อาจผันผวนในตอนแรก แต่หลังจากผ่านไปเจ็ดวัน คุณควรมีตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่จะทำให้การนำเสนอโฆษณาคงที่และสม่ำเสมอ

หลีกเลี่ยงการปรับการตั้งค่าโฆษณาของคุณใน 3 วันแรก
- การแก้ไขการตั้งค่ากลุ่มโฆษณาของคุณภายใน 3 วันแรกอาจส่งผลต่อความสามารถ ของกลุ่มโฆษณาในการผ่านช่วงการเรียนรู้
- หลังจากผ่านไป 3 วัน ให้ทำการปรับหนึ่งครั้ง และแก้ไขงบประมาณหรือราคาเสนอครั้งละไม่เกิน 20%
- หากคุณหยุดแคมเปญการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่านานกว่า 24 ชั่วโมง ระบบจะกลับสู่ช่วงการ เรียนรู้เมื่อรีสตาร์ท

กุญแจสู่ความสำเร็จคือการเปิดใจที่จะทดลอง ดังที่แสดงไว้ข้างต้น ผู้ลงโฆษณาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ROAS ของแคมเปญควรเริ่มศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่าในตัวจัดการโฆษณาของ TikTok ตั้งแต่วันนี้!

คุณสามารถติดตามข้อมูลอัปเดตและคำแนะนำเพิ่มเติมจาก Test with TikTok

อ่านบล็อกโพสต์อื่นๆ ของ Test with TikTok ที่นี่

ลงทะเบียนเพื่อเริ่มโฆษณาบน TikTok ภายในไม่กี่นาที