เกี่ยวกับการทดสอบแยก Smart+

อัปเดตล่าสุด: กันยายน 2025

เราได้ปรับปรุงกระบวนการสร้างการทดสอบแยกในตัวจัดการโฆษณาบน TikTok ให้มีความคล่องตัวขึ้น เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างการตั้งค่าการทดสอบแบบ Smart+ กับการตั้งค่าการทดสอบแบบด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้โดยการนำกระบวนการตั้งค่าสำหรับ Smart+ โดยเฉพาะมาใช้กับการทดสอบแยก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Smart+

Smart+ Split Testing_V2_6-06-25

เกณฑ์สำหรับการทดสอบแยกแบบ Smart+

ก่อนที่จะสร้างการทดสอบแยกแบบ Smart+ โปรดตรวจสอบว่าแคมเปญและกลุ่มโฆษณาที่สร้างด้วยตนเองที่คุณวางแผนจะใช้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ เราได้ผสานรวมระบบการทำงานของการตรวจสอบคุณสมบัติไว้ในกระบวนการตั้งค่าการทดสอบแยก Smart+ แล้ว แต่คุณยังจำเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติในระดับแคมเปญ กลุ่มโฆษณา และโฆษณาในระหว่างกระบวนการตั้งค่า

การทดสอบแยก Smart+ สำหรับแคมเปญเว็บ (ที่ไม่ใช่แคตตาล็อก)

ระดับ

การตั้งค่า

มีสิทธิ์

ไม่มีสิทธิ์

แคมเปญ

วัตถุประสงค์การโฆษณา

- คอนเวอร์ชันบนเว็บ

- ยอดขาย (เว็บไซต์ - แคมเปญแบบสร้างด้วยตนเอง - ปิดสวิตช์แคตตาล็อก)



ประเภทแคมเปญ


- แคมเปญ Smart+

- แคมเปญ Search Ads


การตั้งค่า

- การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ

- ไม่ได้กำหนดงบประมาณของแคมเปญหรืองบประมาณของแคมเปญรายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของแคมเปญ


อื่นๆ

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่สูงสุด 10 กลุ่ม

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่มากกว่า 10 กลุ่ม

กลุ่มโฆษณา

ตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพ

- เว็บไซต์

- อินสแตนท์เพจของ TikTok


ตำแหน่งโฆษณา

- ประเภทการจัดตำแหน่งทุกประเภท



การกำหนดเป้าหมาย

- การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายทุกประเภท



งบประมาณและกำหนดการ

- งบประมาณกลุ่มโฆษณารายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของกลุ่มโฆษณา


การเสนอราคาและการเพิ่มประสิทธิภาพ

- มูลค่า

- คอนเวอร์ชัน

- การคลิก

- การเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อมูลค่าแบบอัตโนมัติ (พร้อมให้ใช้งานในเร็วๆ นี้)

โฆษณา

ตัวตน

- โฆษณาทั้งหมดเป็น Spark Ads หรือ Non-Spark Ads

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ใช้ Spark Ads และ Non-Spark Ads ควบคู่กัน

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองที่แตกต่างกันในโฆษณา


รายละเอียดโฆษณา

- ใช้ชิ้นงานโฆษณาที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 30 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- มีข้อความที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 5 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- ไม่มีการจำกัดจำนวนของ Call to Action

- ใช้ Add-On เชิงโต้ตอบเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ปลายทางจะต้องเป็นเว็บไซต์ ใช้ URL ปลายทางเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- พารามิเตอร์ UTM ในโฆษณาต่างๆ อาจแตกต่างกันได้

- ปลายทางใช้อินสแตนท์เพจของ TikTok


การติดตาม

- ไม่มีการจำกัดการตั้งค่าการติดตามของบริษัทอื่น

- ใช้การตั้งค่าการติดตามบุคคลที่สามที่แตกต่างกันในโฆษณา


การทดสอบแยก Smart+ สำหรับแคมเปญเว็บ (แคตตาล็อก)

ระดับ

การตั้งค่า

มีสิทธิ์

ไม่มีสิทธิ์

แคมเปญ

วัตถุประสงค์การโฆษณา

- ยอดขายสินค้า (แหล่งที่มาของสินค้า: แคตตาล็อก)

- ยอดขาย (เว็บไซต์ - แคมเปญแบบสร้างด้วยตนเอง - เปิดสวิตช์แคตตาล็อก)

หมายเหตุ: รองรับเฉพาะแคตตาล็อกอีคอมเมิร์ซเท่านั้น



ประเภทแคมเปญ


- แคมเปญ Smart+

- แคมเปญ Search Ads


การตั้งค่า

- การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ

- ไม่ได้กำหนดงบประมาณของแคมเปญหรืองบประมาณของแคมเปญรายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของแคมเปญ


อื่นๆ

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่สูงสุด 10 กลุ่ม

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่มากกว่า 10 กลุ่ม

กลุ่มโฆษณา

ประเภท Shopping Ads

- Video Shopping Ads

- Catalog Listing Ads


ตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพ

- เว็บไซต์

- แอป


ตำแหน่งโฆษณา

- ประเภทการจัดตำแหน่งทุกประเภท



การกำหนดเป้าหมาย

- การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายทุกประเภท



งบประมาณและกำหนดการ

- งบประมาณกลุ่มโฆษณารายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของกลุ่มโฆษณา


การเสนอราคาและการเพิ่มประสิทธิภาพ

- มูลค่า

- คอนเวอร์ชัน

- การคลิก

- การดูแลนดิ้งเพจ


โฆษณา

ตัวตน

- สามารถใช้แคมเปญแคตตาล็อกแบบสร้างด้วยตนเองที่ใช้ "การดึงเนื้อหาที่มีอยู่" เพื่อนำมาสร้าง Spark Ads ได้

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ไม่สามารถใช้ "การอัปโหลดเนื้อหาใหม่" เพื่อนำมาสร้าง Spark Ads ได้

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองที่แตกต่างกันในโฆษณา


รายละเอียดสินค้า

- การเลือกใช้รายละเอียดสินค้าเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด: สินค้าทั้งหมด ชุดสินค้า หรือสินค้าบางรายการ

- หากเลือก "ชุดสินค้า": ใช้ชุดสินค้าเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- หากเลือก "สินค้าบางรายการ": ใช้สินค้าเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด และใช้สินค้าที่ไม่ซ้ำกันสูงสุด 20 รายการ



รายละเอียดโฆษณา

- รองรับการใช้รูปแบบโฆษณาที่ต่างกันควบคู่กันสำหรับโฆษณาแบบวิดีโอ วิดีโอในแคตตาล็อก หรือภาพสไลด์แคตตาล็อก

- หากใช้โฆษณาแบบวิดีโอ: ใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบวิดีโอที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 30 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- หากใช้ภาพสไลด์แคตตาล็อก: จำกัดให้ใช้ภาพสไลด์แคตตาล็อกเพียง 1 รายการและเพลงสำหรับภาพสไลด์เพียง 1 รายการเท่านั้น

- ข้อความ: ใช้ข้อความที่ไม่ซ้ำกัน 1-5 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- Call to Action: ไม่มีการจำกัดจำนวนของ Call to Action

- ใช้การตั้งค่า "โฆษณานี้มีคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI" แบบเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ปลายทาง: ใช้ URL ปลายทางเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด ต้องป้อน URL เว็บไซต์

- พารามิเตอร์ UTM ในโฆษณาต่างๆ อาจแตกต่างกันได้

- Image Ads

- ภาพแคตตาล็อก


การติดตาม

- ไม่มีการจำกัดการตั้งค่าการติดตามของบริษัทอื่น

- ใช้การตั้งค่าการติดตามบุคคลที่สามที่แตกต่างกันในโฆษณา


การทดสอบแยกแบบ Smart+ สำหรับแคมเปญแอป

ระดับ

การตั้งค่า

มีสิทธิ์

ไม่มีสิทธิ์

แคมเปญ

วัตถุประสงค์การโฆษณา

- การโปรโมทแอป



ประเภทแคมเปญ

- การติดตั้งแอป

- การกำหนดเป้าหมายซ้ำในแอป การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับแอป การโปรโมทโพสต์สำหรับแอป คอนเทนต์แบบชำระเงิน

- แคมเปญ Smart+


แคมเปญที่สร้างมาเพื่อ iOS 14

- ต้องใช้แคมเปญโดยเฉพาะขั้นสูง หากใช้แคมเปญที่สร้างมาเพื่อ iOS 14

- มีโควต้าแคมเปญที่สร้างมาเพื่อ iOS 14 เพียงพอ

- ต้องใช้แคมเปญโดยเฉพาะที่ไม่ใช่แคมเปญขั้นสูง หากใช้แคมเปญที่สร้างมาเพื่อ iOS 14

- มีโควต้าแคมเปญที่สร้างมาเพื่อ iOS 14 ไม่เพียงพอ


การตั้งค่า

- การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ

- ไม่ได้กำหนดงบประมาณของแคมเปญหรืองบประมาณของแคมเปญรายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของแคมเปญ


อื่นๆ

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่สูงสุด 10 กลุ่ม

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่มากกว่า 10 กลุ่ม

กลุ่มโฆษณา

แอป

- แอป Android ทั้งหมด

- แอป iOS ที่ใช้แคมเปญที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อ iOS 14 โดยเฉพาะ


ตำแหน่งโฆษณา

- ประเภทการจัดตำแหน่งทุกประเภท



การกำหนดเป้าหมาย

- การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายทุกประเภท



งบประมาณและกำหนดการ

- งบประมาณกลุ่มโฆษณารายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของกลุ่มโฆษณา


การเสนอราคาและการเพิ่มประสิทธิภาพ

Android:

- มูลค่า (ไม่มี ROAS เป้าหมาย)

- กิจกรรมในแอป

- ติดตั้ง

iOS:

- กิจกรรมในแอป (ไม่มี CPA เป้าหมาย)

- ติดตั้ง (ไม่มี CPA เป้าหมาย)

Android:

- มูลค่า (มี ROAS เป้าหมาย)

- การคลิก

iOS:

- มูลค่า (พร้อมให้ใช้งานเร็วๆ นี้)

- กิจกรรมในแอป (มี ROAS เป้าหมาย)

- การติดตั้ง (ไม่มี CPA เป้าหมาย)

- การคลิก

โฆษณา

ตัวตน

- โฆษณาทั้งหมดเป็น Spark Ads หรือ Non-Spark Ads

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ใช้ Spark Ads และ Non-Spark Ads ควบคู่กัน

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองที่แตกต่างกันในโฆษณา


รายละเอียดโฆษณา

- ใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบวิดีโอที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 30 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- มีข้อความที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 5 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- ใช้ Add-On เชิงโต้ตอบเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

ปลายทาง:

- สำหรับ iOS โฆษณาทั้งหมดจะต้องเลือกโปรไฟล์แอป หรือไม่มีโฆษณาใดเลยที่เลือกโปรไฟล์แอป

- สำหรับ Android โฆษณาทั้งหมดจะต้องเลือกแอป หรือโฆษณาทั้งหมดจะต้องเลือกอินสแตนท์เพจของ TikTok

- ภาพสไลด์ (พร้อมให้ใช้งานเร็วๆ นี้)

- สำหรับ iOS ปลายทางจะใช้หน้าสินค้าแบบกำหนดเอง


การติดตาม

- ไม่มีการจำกัดการตั้งค่าการติดตามของบริษัทอื่น

- ใช้การตั้งค่าการติดตามบุคคลที่สามที่แตกต่างกันในโฆษณา


Playable


- เนื้อหา Playable


การทดสอบแยก Smart+ สำหรับแคมเปญการสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ระดับ

การตั้งค่า

มีสิทธิ์ใช้งาน

ไม่มีสิทธิ์ใช้งาน

แคมเปญ

วัตถุประสงค์การโฆษณา

- การสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย



ประเภทแคมเปญ


- โฆษณาที่ทำงานโดยอัตโนมัติ

- แคมเปญ Smart+

- แคมเปญการค้นหา


การตั้งค่า

- การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ

- ไม่ได้กำหนดงบประมาณของแคมเปญหรืองบประมาณของแคมเปญรายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของแคมเปญ


อื่นๆ

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่สูงสุด 10 กลุ่ม

- กลุ่มโฆษณาในแคมเปญที่ใช้งานอยู่มากกว่า 10 กลุ่ม

กลุ่มโฆษณา

ตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพ

- แบบฟอร์มเว็บไซต์

- แบบฟอร์มสำเร็จรูป

- ข้อความโดยตรงของ TikTok

- แอปส่งข้อความแบบเรียลไทม์

- การติดต่อทางโทรศัพท์


ตำแหน่งโฆษณา

- การจัดตำแหน่งอัตโนมัติ

- การจัดตำแหน่งแบบกำหนดเอง: TikTok เท่านั้นหรือ TikTok + TikTok Pangle

- การจัดตำแหน่งแบบกำหนดเอง: TikTok Pangle เท่านั้น


การกำหนดเป้าหมาย

- การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายทุกประเภท



งบประมาณและกำหนดการ

- งบประมาณกลุ่มโฆษณารายวัน

- งบประมาณตลอดอายุของกลุ่มโฆษณา


การเสนอราคาและการเพิ่มประสิทธิภาพ

หากตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเว็บไซต์:

- คอนเวอร์ชัน

หากตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นแบบฟอร์มสำเร็จรูป:

- ลูกค้าเป้าหมาย

หากตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเว็บไซต์:

- ลูกค้าเป้าหมายที่สร้างคอนเวอร์ชัน

- การคลิก

หากตำแหน่งการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นแบบฟอร์มสำเร็จรูป:

- ลูกค้าเป้าหมายที่สร้างคอนเวอร์ชัน

- กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการ

โฆษณา

ตัวตน

- โฆษณาทั้งหมดเป็น Spark Ads หรือ Non-Spark Ads

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ใช้ Spark Ads และ Non-Spark Ads ควบคู่กัน

- ใช้ตัวตนแบบกำหนดเองที่แตกต่างกันในโฆษณา


รายละเอียดโฆษณา

- ใช้ชิ้นงานโฆษณาที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 30 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- มีข้อความที่ไม่ซ้ำกันไม่เกิน 5 รายการในโฆษณาทั้งหมด

- ไม่มีการจำกัดจำนวนของ Call to Action

- สามารถใช้ภาพสไลด์ได้

- ใช้ Add-On เชิงโต้ตอบเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- ปลายทาง: ใช้ URL หรือแบบฟอร์มสำเร็จรูปเดียวกันในโฆษณาทั้งหมด

- พารามิเตอร์ UTM ในโฆษณาต่างๆ อาจแตกต่างกันได้



การติดตาม

- ไม่มีการจำกัดการตั้งค่าการติดตามของบริษัทอื่น

- ใช้การตั้งค่าการติดตามบุคคลที่สามที่แตกต่างกันในโฆษณา


วิธีตั้งค่าการทดสอบแยก Smart+ ในตัวจัดการโฆษณาบน TikTok

  1. ไปที่รายการแคมเปญ แล้วคลิกการทดสอบแยก

  2. ในมุมมอง "เลือกตัวแปรสำหรับการทดสอบแยกใหม่ของคุณ" ให้เลือกตัวแปร 'Smart+'

  3. เลือกแคมเปญแบบสร้างเอง (แคมเปญ A) จากนั้นระบบจะตรวจสอบสิทธิ์โดยอัตโนมัติ

  4. ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบแยก (ชื่อการทดสอบ ระยะเวลาการทดสอบ และตัวชี้วัดหลัก)

  5. ตรวจสอบกำลังการทดสอบโดยประมาณ

  6. สร้างแคมเปญ Smart+ แบบอัตโนมัติ (เวอร์ชัน B)

  7. ตรวจสอบและเผยแพร่ทั้งแคมเปญและการทดสอบแยก


วิธีจัดการการทดสอบแยก Smart+

  1. ไปที่ตัวจัดการโฆษณาบน TikTok

  2. ไปที่หน้าแคมเปญ

  3. ค้นหาแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบแยกด้วยการมองหาไอคอนขวดการทดลองในทั้งแคมเปญ/กลุ่มโฆษณาแบบสร้างเองและแบบ Smart+

  4. คลิกแก้ไขแคมเปญหรือแก้ไขกลุ่มโฆษณา

  5. คลิกแก้ไขการทดสอบเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบแยก

  6. สำหรับการทดสอบที่กำหนดเวลาไว้แล้ว คุณสามารถแก้ไขชื่อการทดสอบและวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดการทดสอบได้

  7. สำหรับการทดสอบที่ดำเนินการอยู่ คุณสามารถแก้ไขได้เฉพาะชื่อการทดสอบและวันที่สิ้นสุดการทดสอบ

  8. สำหรับการทดสอบที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วหรือถูกยกเลิก คุณสามารถแก้ไขชื่อการทดสอบได้เพียงอย่างเดียว


วิธีดูรายงานการทดสอบแยก Smart+

  1. ไปที่ตัวจัดการโฆษณาบน TikTok

  2. ไปที่หน้าแคมเปญ

  3. ในรายการแคมเปญ ให้เลือกแคมเปญที่อยู่ในการทดสอบแยก (ซึ่งระบุได้โดยดูจากไอคอนขวดการทดลอง)

  4. คลิกดูการทดสอบแยก

  5. ดูการทดสอบแยกที่ดำเนินการอยู่ เพิ่งดำเนินการเสร็จสิ้น หรือกำหนดเวลาแล้วได้ในตัวจัดการโฆษณา นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูการทดสอบแยกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ ID ผู้โฆษณาได้ในตัวจัดการการทดลองด้วย