ภาษาไทย
สร้างโฆษณา

ข้อมูลเชิงลึกและการรายงานผล

  1. การวัดผล /
  2. ข้อมูลเชิงลึกและการรายงานผล /
  3. รายงาน /

เกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของคอนเวอร์ชันในตัวจัดการโฆษณาบน TikTok

อัปเดตล่าสุด: เมษายน 2025

พิกเซลของ TikTok เป็นแบบหลายเซสชัน ซึ่งก็คือคอนเวอร์ชันที่ไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีหลังจากคลิกโฆษณา แต่ยังเกิดขึ้นในกรอบเวลาคอนเวอร์ชัน คุณอาจเห็นความคลาดเคลื่อนระหว่างเครื่องมือการรายงานผลของบริษัทภายนอกกับตัวจัดการโฆษณาบน TikTok ความคลาดเคลื่อนเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุหลากหลายประการ และข้อมูลนี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการตลาดแทนการต้องกระทบยอดตัวเลขทั้งสองให้ตรงกัน


หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบว่าคุณกำลังใช้พารามิเตอร์ UTM ภายในโฆษณา TikTok อย่างถูกต้อง การดำเนินการนี้จะทำให้เครื่องมือรายงานผลของบริษัทภายนอกสามารถเริ่มบันทึกคอนเวอร์ชัน TikTok (โดยมีข้อจำกัด) และสิ่งสำคัญก็คือมีการนำไปใช้กับ URL แลนดิ้งเพจทั้งหมดของคุณ

สาเหตุทั่วไปของความคลาดเคลื่อน

  • แท็ก UTM ของ Google Analytics เป็นแบบเซสชันเดียว ในขณะที่พิกเซลของ TikTok เป็นแบบหลายเซสชัน

  • เบราว์เซอร์ในแอปของ TikTok อาจทำให้ข้อมูลที่ได้จากการรายงานน้อยกว่าความเป็นจริงใน Google Analytics

  • Google Analytics เป็นเครื่องมือวัดผลแบบข้ามแพลตฟอร์ม ในขณะที่ TikTok จะวัดผลเฉพาะโฆษณา TikTok เท่านั้น

  • เครื่องมือรายงานผลของบริษัทภายนอกอาจมีวิธีการระบุแหล่งที่มาที่แตกต่างจาก TikTok

  • การตั้งค่าการบล็อกโฆษณาและเบราว์เซอร์อาจส่งผลต่อความแม่นยำของการติดตามข้อมูลการแสดงโฆษณา

  • การตั้งค่าวันที่และเขตเวลาของคอนเวอร์ชันอาจส่งผลต่อความแม่นยำของการติดตามข้อมูลการแสดงโฆษณา


คำอธิบายเกี่ยวกับความไม่สอดคล้องที่เกิดขึ้น

แท็ก UTM ของ Google Analytics เป็นแบบเซสชันเดียว ในขณะที่พิกเซลของ TikTok เป็นแบบหลายเซสชัน

ผู้ใช้ต้องคลิกที่โฆษณาแล้วสร้างคอนเวอร์ชันทันที TikTok จึงจะได้รับเครดิตใน Google Analytics TikTok จะบันทึกคอนเวอร์ชันในตัวจัดการโฆษณา เมื่อผู้ใช้คลิกแล้วกลับมายังเว็บไซต์ในภายหลังเพื่อสร้างคอนเวอร์ชันภายใน 24 ชั่วโมง คอนเวอร์ชันส่วนใหญ่ในตัวจัดการโฆษณาบน TikTok มาจากคอนเวอร์ชันแบบหลายเซสชัน คอนเวอร์ชันดังกล่าวจะไม่ได้รับการบันทึกในเครื่องมือการรายงานผลของบริษัทภายนอก และอาจได้รับการระบุแหล่งที่มาว่ามาจากช่องทางอื่น

เบราว์เซอร์ในแอปของ TikTok อาจทำให้ข้อมูลที่ได้จากการรายงานน้อยกว่าความเป็นจริงใน Google Analytics

การคลิกโฆษณา TikTok มักนำไปสู่การเปิดหน้าเว็บภายในเบราว์เซอร์ในแอปของ TikTok เช่นเดียวกับแอปอื่นๆ บางครั้งเบราว์เซอร์ในแอปเหล่านี้จะขัดขวางไม่ให้ Google Analytics บันทึกช่องทางอ้างอิงที่ถูกต้อง ผู้ใช้บางรายอาจคลิกที่โฆษณา TikTok ซึ่งจะเปิด URL ในเบราว์เซอร์ TikTok แทนการพาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ในกรณีเช่นนี้ Google Analytics อาจไม่รับรู้ทุกครั้งว่าผู้ใช้ได้เข้าถึงเว็บไซต์ผ่าน TikTok จึงบันทึกกิจกรรมนี้ว่าเป็นการเข้าชมแบบออร์แกนิกหรือการเข้าชมโดยตรง TikTok จะรับรู้ถึงกิจกรรมตนเองในฐานะผู้อ้างอิงเสมอ และจะบันทึกคอนเวอร์ชันทั้งหมดที่มาจากการคลิกโฆษณา TikTok อย่างถูกต้อง

Google Analytics เป็นเครื่องมือวัดผลแบบข้ามแพลตฟอร์ม ในขณะที่ TikTok จะวัดผลเฉพาะโฆษณา TikTok เท่านั้น

ผู้คนอาจค้นพบผลิตภัณฑ์หรือบริการบน TikTok แล้วไปค้นหาผลิตภัณฑ์/บริการนั้นต่อในเครื่องมือค้นหาเพื่อทำการซื้อ หากการตั้งค่าการระบุแหล่งที่มาเป็นการคลิกสุดท้ายใน Google Analytics (ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น) ช่องทางที่เป็นช่องทางการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าสุดท้ายมักจะได้รับเครดิตคอนเวอร์ชันทั้งหมด ส่วน TikTok จะไม่ได้รับเครดิต ด้วยสาเหตุนี้ คอนเวอร์ชัน TikTok ใน Google Analytics หรือเครื่องมือของบริษัทอื่นจึงมักจะได้รับข้อมูลจากการรายงานผลน้อยกว่าความเป็นจริง

เครื่องมือรายงานผลของบริษัทภายนอกอาจมีวิธีการระบุแหล่งที่มาที่แตกต่างจาก TikTok

TikTok และ Google Analytics มีวิธีการระบุแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน ที่ TikTok การระบุแหล่งที่มาประกอบด้วยวิธีการจับคู่หลายอย่าง เช่น อีเมล, โทรศัพท์, IP, UA และเทคนิคอื่นๆ การระบุแหล่งที่มาของ Google Analytics นั้นอ้างอิงจากคุกกี้และตัวติดตาม UTM โดยที่บางช่องทางจะได้รับข้อมูลคอนเวอร์ชันที่จำลองรูปแบบ วิธีการที่แตกต่างกันเหล่านี้มักทำให้เกิดยอดคอนเวอร์ชันที่ไม่เท่ากัน

การตั้งค่าการบล็อกโฆษณาและเบราว์เซอร์อาจส่งผลต่อความแม่นยำของการติดตามข้อมูลการแสดงโฆษณา

ซอฟต์แวร์การบล็อกโฆษณาบางตัวอาจบล็อกกลไกการติดตามที่เครื่องมือวิเคราะห์ใช้อยู่ ดังนั้น เครื่องมือวิเคราะห์อาจไม่สามารถติดตามเซสชันผู้ใช้ทั้งหมดอย่างแม่นยำ ทำให้เกิดการระบุเซสชัน TikTok เป็นช่องทางอื่น

การตั้งค่าวันที่และเขตเวลาของคอนเวอร์ชันอาจส่งผลต่อความแม่นยำของการติดตามข้อมูลการแสดงโฆษณา

คอนเวอร์ชันบน TikTok จะถูกรายงานโดยอิงจากเวลาการแสดงผลโฆษณาที่ทำให้เกิดคอนเวอร์ชันนั้น คุณอาจเห็นตัวชี้วัดที่แตกต่างกันสำหรับคอนเวอร์ชันและการระบุแหล่งที่มา หากการรายงานนั้นอิงตามเวลาคอนเวอร์ชันหรือตัวชี้วัดอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีและเวลาที่บริษัทภายนอกติดตามคอนเวอร์ชัน เมื่อคุณตั้งค่าบัญชีตัวจัดการโฆษณาบน TikTok คุณจะถูกขอให้กำหนดเขตเวลา หากเขตเวลาบนบัญชีตัวจัดการโฆษณาบน TikTok แตกต่างจากเขตเวลาในเครื่องมือการรายงานผลของบริษัทภายนอก ความแตกต่างนี้อาจส่งผลต่อตัวชี้วัดที่บันทึกไว้เช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับยอดคลิกที่ไม่ตรงกัน
เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของผู้ชม
วิธีดูประสิทธิภาพโฆษณาในตัวจัดการโฆษณาบน TikTok