แหล่งข้อมูลนโยบายการโฆษณา
TikTok Creative Exchange
TikTok One overview
แคมเปญ TikTok One
เนื้อหา TikTok One
TikTok One support
TikTok One Creative Suite - สัญญาระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์
ข้อมูลเบื้องต้น
TikTok Inc. และบริษัทในเครือ ("TikTok") เป็นผู้ดำเนินการให้บริการแพลตฟอร์ม TikTok One Creative Suite ("แพลตฟอร์ม TikTok One") ซึ่งผู้โฆษณาและบุคคลอื่นๆ ("แบรนด์") นอกจากจะดำเนินการอื่นๆ ได้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับครีเอเตอร์หรือบุคคลที่สามอื่นๆ บนแพลตฟอร์ม ("ครีเอเตอร์") รวมถึงสั่งซื้อหรือขอรับบริการต่างๆ หลายประเภท ซึ่งรวมถึงบริการจัดหาคอนเทนต์ที่กล่าวถึงแบรนด์ ชิ้นงานโฆษณา หรือคอนเทนต์เชิงพาณิชย์อื่นๆ จากครีเอเตอร์ให้กับแบรนด์ ซึ่งอาจถูกเผยแพร่ผ่านแคมเปญโฆษณาและแคมเปญการตลาด ("แคมเปญ TikTok") โดยใช้แอป TikTok, แพลตฟอร์ม TikTok One หรือผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่ให้บริการโดย TikTok (เรียกรวมว่า "แพลตฟอร์ม TikTok")
ข้อตกลงนี้ ("สัญญา TikTok One") จัดทำขึ้นระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์โดยเกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok One ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญา TikTok One ฉบับนี้ ครีเอเตอร์จะจัดเตรียมคอนเทนต์และบริการที่เกี่ยวข้องให้กับแบรนด์ (ซึ่งเรียกรวมกันว่า "คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One") เพื่อใช้ในแคมเปญ TikTok ("แคมเปญ TikTok One") ซึ่งแบรนด์และครีเอเตอร์ได้ติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok One ข้อกำหนดของสัญญา TikTok One ฉบับนี้ประกอบด้วยคำสั่งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆ ที่แบรนด์เป็นผู้จัดหา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ("คำสั่งของแบรนด์") อาจมีการนำเสนอคำสั่งของแบรนด์ในแพลตฟอร์ม TikTok One และด้วยวิธีการอื่นๆ คำสั่งของแบรนด์จะประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับแคมเปญ TikTok One และคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ซึ่งจะมีการระบุถึงด้านล่าง
แบรนด์และครีเอเตอร์ที่ทำสัญญา TikTok One ฉบับนี้จะทำสัญญาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok One และเมื่อทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันแล้วจะถือว่าทั้งสองฝ่ายตกลงยอมรับข้อกำหนดของสัญญา TikTok One ฉบับนี้ แบรนด์และครีเอเตอร์ต่างได้เลือกใช้สัญญา TikTok One ฉบับนี้ตามดุลยพินิจของตนเองแทนการใช้ข้อตกลงแบบแยกต่างหาก ครีเอเตอร์และแบรนด์อาจถูกเรียกว่า "คู่สัญญา" แต่ละฝ่าย หรือเรียกทั้งสองฝ่ายรวมกันว่า "คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย"
คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One
คำสั่งของแบรนด์ แบรนด์ได้ตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าคำสั่งของแบรนด์สำหรับแคมเปญ TikTok One นั้นประกอบด้วยข้อกำหนดทั้งหมดและรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ TikTok One ที่ครีเอเตอร์จำเป็นต้องใช้ในการจัดเตรียมคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ยกตัวอย่างเช่น คำสั่งของแบรนด์ควรประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
ค่าธรรมเนียมและรูปแบบการชำระเงินสำหรับแคมเปญ TikTok One และระยะเวลาที่ทำแคมเปญ TikTok One
ระยะเวลาและรูปแบบของคอนเทนต์ รวมถึงคอนเทนต์ที่จะใส่ในคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One (ซึ่งได้แก่ เพลง ภาพ หรือสิ่งอื่นใด)
สิ่งที่ต้องส่งและกำหนดเวลาส่ง
รายละเอียดเกี่ยวกับบริการใดๆ (เช่น ฝ่ายใดจะเป็นผู้เผยแพร่คอนเทนต์ ความคิดเห็นสาธารณะใดๆ ที่ครีเอเตอร์จะเสนอ) และ
โลโก้ วิดีโอ ภาพ เพลง หรือคอนเทนต์อื่นๆ รวมถึงสิ่งของที่แบรนด์จะจัดหาให้ครีเอเตอร์ใช้สร้างคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ("สื่อ") และวิธีการที่แบรนด์จะจัดหาสิ่งเหล่านั้นให้
หากคำสั่งของแบรนด์ไม่ได้ระบุระยะเวลาของแคมเปญ TikTok One แคมเปญนั้นจะมีระยะเวลาหนึ่ง (1) ปีนับตั้งแต่วันที่มีการเผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One เป็นครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ TikTok One ตามที่ระบุไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ ("ช่วงเวลาทำแคมเปญ")
ผลการดำเนินงานของครีเอเตอร์ ครีเอเตอร์จะจัดหาและเผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ตามที่ระบุไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ (ซึ่งรวมถึงคำสั่งของแบรนด์) ครีเอเตอร์มีอิสระเต็มที่ในการกำหนดเวลา สถานที่ และวิธีการในการจัดเตรียมคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One แบรนด์จะจัดหาสื่อตามที่ระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์ หรือด้วยวิธีการอื่นๆ ตามที่แบรนด์และครีเอเตอร์ตกลงกัน นอกเหนือจากสื่อต่างๆ ที่แบรนด์จัดหาให้ ครีเอเตอร์จะต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดหาสื่อและอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้ โดยครีเอเตอร์จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ครีเอเตอร์สามารถใช้บริการของบุคคลที่สามในการจัดเตรียมคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One โดยต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากแบรนด์ ครีเอเตอร์จะต้องรับผิดชอบต่อบุคคลที่สามทั้งหมดและต้องรับผิดชอบถึงที่สุดในการรับประกันว่าคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One จะได้รับการจัดเตรียมตามที่ได้ตกลงไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้
เพลงและเสียง
หากคำสั่งของแบรนด์ระบุถึงเพลงหรือเสียงที่ต้องใส่ไว้ในคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ("เพลงที่จำเป็นต้องใส่ในคอนเทนต์") แบรนด์จะต้องได้รับสิทธิ์และการอนุญาตทั้งหมดที่จำเป็นต่อการใช้งาน การเผยแพร่ และการใช้ประโยชน์อื่นใดจากเพลงที่จำเป็นต้องใส่ในคอนเทนต์ เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถจัดเตรียมคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One และดำเนินการตามภาระหน้าที่ภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้
หากคำสั่งของแบรนด์ไม่ได้ระบุว่าต้องใส่เพลงหรือเสียงใดๆ ในคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ครีเอเตอร์สามารถใช้เพลงหรือเสียงจากคลังเพลงเชิงพาณิชย์ของ TikTok (หรือที่มาจากแหล่งดังกล่าว) ได้ แต่จะไม่ใช้เพลงหรือเสียงอื่นๆ รวมถึงเพลงที่มาจากเพลงทั่วไปในแพลตฟอร์ม TikTok
การอนุมัติคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One
คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ทั้งหมดจะต้องได้รับการอนุมัติจากแบรนด์ก่อนที่จะโพสต์บนแพลตฟอร์ม TikTok ครีเอเตอร์จะต้องดำเนินการดังนี้เพื่อให้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ได้รับการอนุมัติจากแบรนด์
ส่งคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ตามที่เสนอ ("คอนเทนต์ที่เสร็จสมบูรณ์") ให้แบรนด์เพื่อขออนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนที่จะเผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ต่อสาธารณะบนแพลตฟอร์ม TikTok
ห้ามไม่ให้เผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ต่อสาธารณะโดยไม่ได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากแบรนด์
แบรนด์สามารถให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่เสร็จสมบูรณ์และขอให้มีการปรับเปลี่ยนที่มีเหตุผลอันสมควรที่เกี่ยวข้อง ครีเอเตอร์จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงคอนเทนต์ที่เสร็จสมบูรณ์ตามคำขอทั้งหมดที่มีเหตุผลอันสมควรที่เกี่ยวข้องและส่งเวอร์ชันที่แก้ไขแล้วให้แบรนด์เพื่อขออนุมัติ
หากมีความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากแบรนด์ในการให้การอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ระบุในข้อ 2.4 (ก) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และความล่าช้านั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถของครีเอเตอร์ในการดำเนินการตามกำหนดเวลาส่งที่ระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์ หรือหากครีเอเตอร์ขอขยายเวลาโดยมีเหตุผลอันสมควรตามที่จำเป็นเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่แบรนด์ร้องขอ ให้แบรนด์ขยายระยะเวลากำหนดส่งอย่างสมเหตุสมผล
หากแบรนด์ไม่สามารถให้การอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร นโยบายที่มีผลบังคับใช้อาจถือว่าคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ผ่านการอนุมัติหลังจากระยะเวลาที่ระบุไว้ในนโยบายดังกล่าว
บัญชีครีเอเตอร์ หากคำสั่งของแบรนด์กำหนดให้ครีเอเตอร์โพสต์คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One บนแพลตฟอร์ม TikTok ครีเอเตอร์จะโพสต์คอนเทนต์ดังกล่าวโดยใช้บัญชี TikTok ที่แสดงอยู่ในโปรไฟล์ของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม TikTok One แบรนด์และคำสั่งของแบรนด์จะไม่กำหนดให้ครีเอเตอร์ต้องเผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ในแพลตฟอร์มอื่น นอกเหนือจากการเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok
การชำระเงินให้ครีเอเตอร์
การชำระเงินให้ครีเอเตอร์ แบรนด์ตกลงที่จะชำระเงินให้ครีเอเตอร์ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในคำเชิญเข้าร่วมแคมเปญ ("การชำระเงินให้ครีเอเตอร์") เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One การชำระเงินให้ครีเอเตอร์เป็นไปตามนโยบายการขอคืนเงินที่ระบุไว้ในรายการ 1 ด้านล่าง การชำระเงินให้ครีเอเตอร์และการคืนเงินจะได้รับการดำเนินการและประมวลผลผ่านบริการชำระเงินที่มีการเปิดใช้งานบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีผลบังคับใช้ซึ่งกำกับดูแลบริการชำระเงินเหล่านี้
ภาษี ครีเอเตอร์จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับภาษีเงินได้ เงินสมทบประกันสังคม หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือภาษีที่เทียบเท่ากันในประเทศที่ครีเอเตอร์อาศัยอยู่) ที่ต้องชำระในส่วนของการชำระเงินให้กับครีเอเตอร์หรือจำนวนเงินอื่นๆ ที่ชำระตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม ครีเอเตอร์จะต้องให้หมายเลขประกันสังคมหรือหมายเลขผู้เสียภาษีเฉพาะของครีเอเตอร์ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่แบรนด์ร้องขอโดยมีเหตุผลอันสมควร ซึ่งจำเป็นสำหรับแบรนด์ในการดำเนินการชำระเงินให้กับครีเอเตอร์และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การออกกฎหมาย ข้อบังคับ นโยบายการกำกับดูแล แนวทางการกำกับดูแล แนวทางปฏิบัติของอุตสาหกรรม การให้สิทธิ์อนุญาตกำกับดูแล และใบอนุญาตการกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้ ("กฎหมายที่มีผลบังคับใช้")
การใช้คอนเทนต์และสื่อที่สร้างโดยครีเอเตอร์ใน TikTok One
การให้สิทธิ์อนุญาตให้ใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One
หากครีเอเตอร์จัดหาคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ให้กับแบรนด์ ครีเอเตอร์ได้มอบสิทธิ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ให้กับแบรนด์ในระหว่างช่วงที่ทำสัญญา
สิทธิ์และการอนุญาตทั่วโลกที่ไม่สามารถมอบสิทธิ์ให้กับผู้อื่นต่อได้ (ยกเว้นให้กับบุคคลที่สามที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทน ผู้แทน หรือผู้ให้บริการสำหรับแบรนด์) ซึ่งปลอดค่าลิขสิทธิ์และไม่สามารถโอนสิทธิ์ได้เพื่อดำเนินการสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
การทำสำเนา แจกจ่าย นำเสนอ จัดแสดง และใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One เป็นการภายในเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบตามที่กำหนดไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ (เช่น เพื่ออนุมัติคอนเทนต์ที่เสร็จสมบูรณ์) หรือตามที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในคำสั่งของแบรนด์หรือตกลงโดยทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
ปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One (ก) ด้วยการเพิ่มลิงก์ปักหมุดสินค้า (Product Anchor) ที่ไปยังสินค้าหรือบริการของแบรนด์ หากมีการระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์ และ (ข) ด้วยวิธีการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในคำสั่งของแบรนด์หรือที่ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างทั้งสองฝ่าย และ
การทำสำเนา แจกจ่าย นำเสนอ จัดแสดง หรือเผยแพร่คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One (รวมถึงเวอร์ชันที่ผ่านการแก้ไขที่ได้รับอนุญาต) ต่อสาธารณะ เฉพาะในกรณีที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ TikTok One และแคมเปญ TikTok อื่นๆ และเฉพาะในกรณีที่มีการระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์ หรือได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่กฎหมายที่มีผลบังคับใช้อนุญาต
สิทธิ์ในการใช้ชื่อของครีเอเตอร์ ชื่อผู้ใช้ ภาพ ลักษณะ เสียง ลักษณะทางกายภาพ และสิทธิ์ในตัวตนของครีเอเตอร์ รวมถึงข้อความ การสนับสนุน และข้อมูลประวัติของครีเอเตอร์ (รวมเรียกว่า "สิทธิ์สาธารณะของครีเอเตอร์") ในแต่ละกรณีดังนี้ (ก) เฉพาะตามที่มีในคอนเทนต์และเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ที่เสร็จสมบูรณ์ (และการแก้ไขคอนเทนต์ตามที่ได้รับอนุญาต) ที่มีการใช้งานตามข้อ 4.1 (ก)(1) หรือ (ข) ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร
ภายในขอบเขตที่กฎหมายที่มีผลบังคับใช้อนุญาต ครีเอเตอร์ขอยกเว้นสิทธิ์ในทางศีลธรรมทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One Creator และสิทธิ์ที่คล้ายคลึงกันทั้งหมดในเขตอำนาจศาลใดๆ ที่ครีเอเตอร์จะมีสิทธิ์ได้รับ
สัญญา TikTok One ฉบับนี้ไม่ได้มอบสิทธิ์ให้แบรนด์เป็นเจ้าของคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One และสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่อยู่ในคอนเทนต์นั้น (ยกเว้นสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของและสิทธิ์ในสื่อต่างๆ ของแบรนด์) ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อ 4.1 แบรนด์จะไม่ใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One, คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One เวอร์ชันที่มีการแก้ไข หรือสิทธิ์ในการเผยแพร่ของครีเอเตอร์
การอนุญาตให้ใช้สื่อ แบรนด์ขอมอบสิทธิ์และการอนุญาตให้ครีเอเตอร์ทำสำเนา เผยแพร่ นำเสนอ จัดแสดง และใช้สื่อเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดในระหว่างที่ทำสัญญาเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยสิทธิ์และการอนุญาตดังกล่าวไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทั่วโลก ไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียว ไม่สามารถโอนได้ สามารถเพิกถอนได้ เพื่อเป็นการระบุให้ชัดเจน หากคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ประกอบด้วยสื่อ (ตามคำสั่งของแบรนด์) สิทธิ์ที่กล่าวถึงข้างต้นจะหมายรวมถึงสิทธิ์ในการอัปโหลดคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามภาระผูกพันของครีเอเตอร์ภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้ สัญญา TikTok One ฉบับนี้ไม่ได้มอบสิทธิ์ให้ครีเอเตอร์เป็นเจ้าของสื่อหรือสิทธิ์ทางทรัพย์สินทางปัญญาที่อยู่ในสื่อดังกล่าว ครีเอเตอร์จะไม่ใช้สื่อต่างๆ ยกเว้นแต่ที่มีการระบุไว้ในข้อ 4.2
การรักษาความลับ
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งอาจเปิดเผยข้อมูล (ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจา) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แคมเปญ เนื้อหา ผลิตภัณฑ์ แผน หรือกิจการของฝ่ายที่เปิดเผยข้อมูลให้กับอีกฝ่าย ซึ่งได้รับการระบุโดยฝ่ายที่เปิดเผยข้อมูลว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับหรือควรเข้าใจโดยมีเหตุผลอันสมควรว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ ("ข้อมูลที่เป็นความลับ") โดยเกี่ยวข้องกับสัญญา TikTok One ฉบับนี้ ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูลที่อยู่ในโดเมนสาธารณะ ข้อมูลที่พัฒนาขึ้นอย่างอิสระโดยฝ่ายที่ได้รับข้อมูล หรือข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของฝ่ายที่ได้รับข้อมูลก่อนทำสัญญา TikTok One ฉบับนี้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการรักษาความลับ
ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับข้อมูลที่เป็นความลับจะต้องดำเนินการดังนี้
ดำเนินการตามขั้นตอนที่มีเหตุอันสมควรเพื่อปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับ
ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับให้กับบุคคลอื่นๆ นอกเหนือจากพนักงานหรือบุคคลที่สามที่ได้รับอนุญาตซึ่ง "มีความจำเป็นต้องรับทราบ" ข้อมูลที่เป็นความลับในแง่ที่เกี่ยวข้องกับกับการปฏิบัติตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้และ
ใช้ข้อมูลที่เป็นความลับเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้
คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับข้อมูลจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตซึ่งตนเองเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับให้จะปฏิบัติตามแนวทางเพื่อคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับในลักษณะเดียวกับที่ระบุไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ เพื่อความชัดเจน คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One อาจถูกนำไปใช้งาน เปิดเผย และนำไปใช้ประโยชน์ตามที่ระบุในข้อ 4.1
ระยะเวลาของสัญญาและการบอกเลิกสัญญา
สัญญา TikTok One ฉบับนี้จะเริ่มต้นในวันที่คู่สัญญาฝ่ายสุดท้ายยอมรับสัญญา TikTok One ฉบับนี้ และจะหมดอายุเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ทำแคมเปญ เว้นแต่จะถูกยกเลิกก่อนกำหนดตามที่ระบุในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ ("ระยะเวลา")
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายสามารถยกเลิกสัญญา TikTok One ฉบับนี้ได้ทุกเมื่อไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามโดย (ก) การแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบหรือ (ข) การใช้ฟีเจอร์การยกเลิกสัญญา TikTok One บนแพลตฟอร์ม TikTok One หากเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว
เมื่อสัญญา TikTok One ฉบับนี้หมดอายุหรือถูกยกเลิก คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะไม่มีส่วนร่วมกับคู่สัญญาอีกฝ่ายอีกต่อไป และครีเอเตอร์จะไม่มีภาระผูกพันในการแสดงคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ในโปรไฟล์ของตนเองในแพลตฟอร์ม TikTok อีกต่อไป เว้นแต่จะมีการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย (รวมถึงระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์)
การมีผลบังคับใช้ต่อไป ข้อกำหนดของสัญญา TikTok One ฉบับนี้ที่มีการระบุหรือมีความตั้งใจโดยนัยว่าจะยังคงมีผลบังคับใช้หลังจากที่สัญญา TikTok One ฉบับนี้หมดอายุหรือถูกยกเลิก (ซึ่งประกอบด้วยข้อ 1, 3, 5, 6, 7, 8, 9 และ 10) จะยังคงมีผลบังคับใช้หลังจากการหมดอายุหรือยกเลิกสัญญาฉบับดังกล่าว
การรับรองและการรับประกัน
การรับรองและการรับประกันร่วมกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองและประกันว่าตนเอง (ก) มีอำนาจในการดำเนินการและส่งมอบตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้ รวมถึงปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้สัญญาฉบับนี้ และสัญญา TikTok One ฉบับนี้เป็นภาระผูกพันทางกฎหมายที่ถูกต้องและบังคับใช้ได้กับคู่สัญญาฝ่ายดังกล่าว (ข) จะปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับซึ่งเกี่ยวข้องกับสัญญา TikTok One ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ (ค) จะไม่ทำการหมิ่นประมาทชื่อ ธุรกิจ หรือชื่อเสียงของคู่สัญญาอีกฝ่ายในระหว่างที่ทำสัญญา ตามที่ใช้ในข้อความที่ระบุไว้ข้างต้น (1) "กฎหมายคุ้มครองข้อมูล" หมายถึงกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่มีผลบังคับใช้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) (2016/679), พระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร ปี ค.ศ. 2018, กฎระเบียบว่าด้วยความเป็นส่วนตัวและการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ 2002/58/EC ตามที่อาจมีการนำไปใช้ แก้ไข อัปเดต และแทนที่เมื่อเวลาผ่านไป และ (2) คำว่า "การประมวลผล" และ "ข้อมูลส่วนบุคคล" เป็นไปตามที่ให้คำจำกัดความไว้ในกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) (2016/679)
การรับรองและการรับประกันของครีเอเตอร์
ครีเอเตอร์รับรอง รับประกัน และให้สัญญาต่างๆ ดังต่อไปนี้
ครีเอเตอร์มีอายุอย่างน้อยสิบแปด (18) ปี และบรรลุนิติภาวะในภูมิภาคที่ครีเอเตอร์อาศัยอยู่
ครีเอเตอร์จะปฏิบัติตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้อย่างเป็นมืออาชีพและมีแนวทางการทำงานที่ดีซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของอุตสาหกรรม (เช่น คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One จะได้รับการถ่ายทำในสภาพแวดล้อมที่มองเห็นได้ชัดเจนและมีแสงสว่างเพียงพอ รวมถึงอยู่ในโฟกัส)
ครีเอเตอร์ได้รับการอนุญาต การอนุมัติ ความยินยอม สิทธิ์ ใบอนุญาต และสิ่งอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด ซึ่งจำเป็นต่อการใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้
โพสต์ของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม TikTok เกี่ยวกับคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One จะ (ก) เป็นไปตามนโยบายเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่กล่าวถึงแบรนด์ (ข) มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนและเห็นได้ชัดเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One เป็นโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่ได้รับการสนับสนุน และ (ค) รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นตามคำสั่งของแบรนด์หรือกฎหมายที่มีผลบังคับใช้
คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One จะไม่มีสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
โลโก้หรือเครื่องหมายการค้าที่ไม่ใช่ของแบรนด์หรือนอกเหนือจากที่จัดหาให้โดยแบรนด์ในสื่อหรือคำสั่งของแบรนด์ เพื่อให้ใช้งานคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One
บุคคลอื่นใดนอกเหนือจากครีเอเตอร์ ยกเว้นในกรณีที่บุคคลอื่นนั้นได้รับการอนุมัติจากแบรนด์เป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามในหนังสือยินยอมให้สิทธิ์ที่จัดทำโดยแบรนด์ (หนังสือยินยอมให้สิทธิ์ดังกล่าวเรียกว่า "หนังสือยินยอมให้สิทธิ์แก่บุคคลที่สาม")
การบิดเบือนความจริงหรือการแสดงความคิดเห็นเชิงลบหรือไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับแบรนด์หรือบุคคลที่สาม
คอนเทนต์ที่ระบุข้อมูลที่เป็นเท็จ บิดเบือนความจริง หรือปกปิดความเกี่ยวข้องระหว่างครีเอเตอร์หรือแบรนด์กับอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลที่สาม
คอนเทนต์ที่หลอกลวง ไม่เป็นธรรม หรือไม่เป็นความจริง หรือคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานรองรับหรือไม่ได้รับการยืนยัน
คอนเทนต์ที่ละเมิดกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ (เช่น แนวทางข้อบังคับเกี่ยวกับการส่งเสริมและให้คำรับรองในการโฆษณา)
คอนเทนต์ที่ละเมิด ฝ่าฝืน หรือใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณะหรือความเป็นส่วนตัว หรือสิทธิ์ที่คล้ายกันของบุคคลที่สามหรือหน่วยงานใดๆ ในทางที่ผิดในทุกที่ทั่วโลก
คอนเทนต์ที่จัดอยู่ในประเภทหรือมีลักษณะต้องห้ามตามวิสัยของแนวทางของชุมชน (ซึ่งรวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา) นโยบายเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่กล่าวถึงแบรนด์ หรือนโยบายการโฆษณา (ตามที่มีผลบังคับใช้) โดยแต่ละนโยบายอาจได้รับการอัปเดตเป็นระยะ และ
ครีเอเตอร์ไม่ทราบว่าจะมีเหตุผลใดๆ ที่ทำให้แบรนด์ต้องรับผิดชอบหรือมีภาระผูกพันต่อบุคคลที่สามจากการใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ของแบรนด์
จะไม่ถือว่าครีเอเตอร์ละเมิดสัญญาข้อ 7.2 ในกรณีที่การละเมิดนั้นเกิดจาก (ก) สื่อหรือเพลงที่จำเป็นต้องใช้ (ข) การที่หนังสือยินยอมให้สิทธิ์แก่บุคคลที่สามไม่ได้ให้สิทธิ์ที่จำเป็นกับแบรนด์หรือครีเอเตอร์ (ค) การแก้ไขคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One หรือการใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ของแบรนด์ในลักษณะที่ขัดต่อสัญญา TikTok One ฉบับนี้หรือ (ง) การปฏิบัติตามข้อกำหนดเฉพาะในคำสั่งของแบรนด์
การรับรองและการรับประกันของแบรนด์ แบรนด์รับรอง รับประกัน และให้สัญญาต่างๆ ดังต่อไปนี้
แบรนด์ได้รับการอนุญาต การอนุมัติ ความยินยอม สิทธิ์ ใบอนุญาต และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดที่คล้ายคลึงกันซึ่งจำเป็นต่อการใช้สื่อตามที่กำหนดไว้ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้
คำสั่งและสื่อของแบรนด์จะไม่มีสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
คอนเทนต์ที่ละเมิด ฝ่าฝืน หรือใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณะหรือความเป็นส่วนตัว หรือสิทธิ์ที่คล้ายกันของบุคคลที่สามหรือหน่วยงานใดๆ ในทางที่ผิดในทุกที่ทั่วโลก
คอนเทนต์ที่ละเมิดกฎหมายที่มีผลบังคับใช้
การบิดเบือนความจริงหรือการแสดงความคิดเห็นเชิงลบหรือไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับบุคคลที่สาม
คอนเทนต์ที่ระบุข้อมูลที่เป็นเท็จ บิดเบือนความจริง หรือปกปิดความเกี่ยวข้องระหว่างครีเอเตอร์หรือแบรนด์กับอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลที่สาม
คอนเทนต์ที่หลอกลวง ไม่เป็นธรรม หรือไม่เป็นความจริง หรือคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานรองรับหรือไม่ได้รับการยืนยัน
คอนเทนต์ที่จัดอยู่ในประเภทหรือมีลักษณะต้องห้ามตามวิสัยของแนวทางของชุมชน (ซึ่งรวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา) จรรยาบรรณธุรกิจของแบรนด์ ข้อกำหนดการโฆษณา และนโยบายการโฆษณา (ตามที่มีผลบังคับใช้) โดยแต่ละนโยบายอาจได้รับการอัปเดตเป็นระยะ
แบรนด์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ที่ได้รับการอนุมัติจากแบรนด์สอดคล้องกับกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนดที่ครีเอเตอร์ต้องทำในคอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok One ก่อนที่จะเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม TikTok และ
แบรนด์ไม่ทราบว่าจะมีเหตุผลใดๆ ที่ทำให้ครีเอเตอร์ต้องรับผิดชอบหรือมีความรับผิดต่อบุคคลที่สามจากการใช้สื่อหรือปฏิบัติตามคำสั่งของแบรนด์
ข้อจำกัดความรับผิดและการจำกัดความรับผิด
ข้อจำกัดความรับผิดเรื่องการรับประกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่ได้ให้การรับรองหรือการรับประกันใดๆ และคู่สัญญาแต่ละฝ่ายขอปฏิเสธความรับผิดทั้งหมดโดยชัดแจ้งตามขอบเขตสูงสุดที่อนุญาตโดยกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ โดยปฏิเสธความรับผิดต่อการรับประกันทั้งหมด ทั้งที่ระบุไว้โดยชัดแจ้งหรือโดยนัย เป็นลายลักษณ์อักษรหรือด้วยวาจา ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการรับประกันการใช้สินค้าที่เหมาะสมตามเจตนาที่ซื้อขายและความเหมาะสมในการใช้งานสำหรับวัตถุประสงค์อย่างใดเป็นการเฉพาะ และการรับประกันโดยนัยว่าจะไม่ละเมิด และการรับประกันโดยนัยที่เกิดขึ้นจากการเจรจาเพื่อทำธุรกรรมกันหรือเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามสัญญา เว้นแต่จะมีการระบุไว้โดยชัดแจ้งในสัญญา TikTok One ฉบับนี้
ความเสียหายทางอ้อม ยกเว้นในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดที่เกิดขึ้นจากข้อ 5 หรือข้อ 9 และตามขอบเขตที่กฎหมายที่มีผลบังคับใช้อนุญาต คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่รับผิดต่อความเสียหายทางอ้อม ความเสียหายพิเศษ ความเสียหายโดยบังเอิญ ความเสียหายเชิงลงโทษ หรือความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องในลักษณะใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับหรือเกิดจากสัญญา TikTok One ฉบับนี้ โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบของการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นตามสัญญา การละเมิด (ซึ่งรวมถึงความประมาทเลินเล่อ) ความรับผิดโดยเคร่งครัดหรือความรับผิดอื่นใด แม้ว่าจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายดังกล่าวล่วงหน้าแล้วก็ตาม
ขีดจำกัดในการรับผิด ยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 8.4 ความรับผิดรวมของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายต่อข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้จะไม่เกินจำนวนที่สูงกว่า (ก) 50,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือ (ข) จำนวนที่ค้างชำระหรือชำระให้กับครีเอเตอร์ตามที่ระบุไว้สัญญานี้
การยกเว้นการรับผิด ไม่มีกรณีใดในข้อ 8 ที่จะจำกัดความรับผิดที่เกิดขึ้นจากสิ่งต่างๆ ดังนี้
การเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บส่วนบุคคลที่เกิดจากคู่สัญญา
ความประมาทเลินเล่อร้ายแรง การกระทำผิดโดยเจตนา การฉ้อโกง หรือการบิดเบือนความจริงเพื่อฉ้อโกง
ข้อเรียกร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 82 ของกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) ของสหภาพยุโรป (EU) (2016/679) หรือกฎหมายที่เทียบเท่ากันในสหราชอาณาจักรหรือ
ภาระผูกพันของแบรนด์ในการชำระเงินให้กับครีเอเตอร์หรือภาระผูกพันของครีเอเตอร์ในการชำระเงินคืนที่ค้างชำระตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้หรือ
ความรับผิดอื่นๆ ที่ไม่สามารถจำกัดหรือยกเว้นได้
การไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สำคัญ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงว่าข้อจำกัดที่ระบุไว้ในข้อ 8 นี้จะยังคงมีผลและบังคับใช้ต่อไป แม้ว่าการแก้ไขเยียวยาที่จำกัดซึ่งระบุไว้จะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สำคัญ
การชดใช้ค่าเสียหาย
คู่สัญญาแต่ละฝ่าย ("ฝ่ายที่ชดใช้") จะชดใช้และละเว้นให้คู่สัญญาอีกฝ่ายไม่จำต้องรับผิด ("ฝ่ายที่ได้รับการชดใช้") ต่อความสูญเสีย ความเสียหาย การเรียกร้อง ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งรวมถึงค่าทนายความภายนอกตามที่มีเหตุผลอันสมควรที่ฝ่ายที่ได้รับการชดใช้ต้องชำระหรือเกิดขึ้นจากการเรียกร้องของบุคคลที่สามที่เกิดจากสิ่งต่างๆ ดังนี้
ความประมาทเลินเล่อร้ายแรง การกระทำผิดโดยเจตนา หรือการฉ้อโกงของฝ่ายที่ชดเชยค่าเสียหายหรือ
การละเมิดข้อ 7 ในสัญญา TikTok One ฉบับนี้โดยคู่สัญญาฝ่ายที่ชดเชยค่าเสียหาย
หลักเกณฑ์ทั่วไป
กฎหมายที่บังคับใช้และเขตอำนาจศาล สัญญา TikTok One นี้จะถูกกำกับและตีความตามกฎหมายของเขตอำนาจศาลที่ครีเอเตอร์อาศัยอยู่ เว้นแต่จะมีการตกลงเป็นอย่างอื่นโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงที่จะพยายามแก้ไขข้อพิพาทใดๆ โดยการพูดคุยที่ไม่เป็นทางการก่อน หากแก้ไขข้อพิพาทโดยการพูดคุยที่ไม่เป็นทางการไม่สำเร็จ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงว่าเขตอำนาจศาลและสถานที่ไกล่เกลี่ยเฉพาะสำหรับข้อพิพาทนี้ รวมถึงการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ระบุไว้ในที่นี้จะเป็นศาลในเขตอำนาจศาลที่ครีเอเตอร์อาศัยอยู่ เว้นแต่จะมีการตกลงเป็นอย่างอื่นโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
การแจ้ง การแจ้งทั้งหมดภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้จะต้องเป็นลายลักษณ์อักษรและจะถือว่ามีการส่งการแจ้งแล้วเมื่อส่งทางอีเมล อีเมลของแบรนด์สำหรับการแจ้งจะเป็นที่อยู่อีเมลที่ระบุไว้ในคำสั่งของแบรนด์ อีเมลของครีเอเตอร์สำหรับการแจ้งจะระบุไว้ในแพลตฟอร์ม TikTok One ครีเอเตอร์ตกลงที่จะส่งต่อข้อสงสัยเกี่ยวกับแบรนด์หรือสัญญา TikTok One ฉบับนี้ที่ตนเองได้รับจากสื่อและบุคคลที่สามอื่นๆ ให้กับแบรนด์
เบ็ดเตล็ด คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถโอนหรือมอบหมายสิทธิ์หรือข้อผูกพันใดๆ ภายใต้สัญญา TikTok One ฉบับนี้ได้โดยไม่ได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่ายหนึ่ง การโอนสิทธิ์ที่พยายามดำเนินการโดยขัดต่อสัญญา TikTok One ฉบับนี้ถือเป็นโมฆะและไม่มีผลทางกฎหมาย ไม่ได้มีการจำกัดขอบเขตตัวอย่างที่ระบุของคำว่า "รวมถึง" และ "ประกอบด้วย" ความสัมพันธ์ของครีเอเตอร์กับแบรนด์จะเป็นผู้รับจ้างอิสระที่ทำสัญญาที่มิได้มีความเกี่ยวข้องกันเป็นพิเศษ และไม่มีสิ่งใดในสัญญา TikTok One ฉบับนี้ที่จะถูกตีความว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วน ตัวแทน การร่วมทุน หรือความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างหรือนายจ้างกับผู้ทำงานระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ การที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถใช้สิทธิ์หรือทางเลือกใดๆ ที่ได้รับตามสัญญา TikTok One ฉบับนี้จะไม่ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ดังกล่าว และจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสิทธิ์ของคู่สัญญาฝ่ายนั้นในการบังคับใช้สิทธิ์ที่กำหนดไว้ดังกล่าวหรือใช้ตัวเลือกนั้นๆ บุคคลที่ไม่ใช่คู่สัญญาในสัญญา TikTok One ฉบับนี้จะไม่มีสิทธิ์ใดๆ ภายใต้หรือตามที่เกี่ยวข้องกับสัญญาฉบับนี้ หากข้อกำหนดใดของสัญญา TikTok One ฉบับนี้ถูกตัดสินให้เป็นโมฆะหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ ข้อกำหนดที่เหลือในสัญญา TikTok One ฉบับนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ สัญญา TikTok One ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อตกลงทั้งหมดระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย และมีผลบังคับใช้เหนือความเข้าใจและข้อตกลงที่มีมาก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว