Test With TikTok: ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของโฆษณาคุณ

TikTok For Business รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัว Test With TikTok ซึ่งเป็นชุดคอนเทนต์ใหม่สำหรับแบรนด์และ เอเจนซี่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ที่พร้อมจะปรับตัวอยู่เสมอ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับชุดโซลูชันโฆษณาที่เป็น นวัตกรรมใหม่ของเราและมาดูรายละเอียดทั้งหมดให้ชัดเจนขึ้น โดยสรุป เราจะแสดงวิธีขับเคลื่อนผลทางธุรกิจในโลกแห่ง ความเป็นจริงผ่านแพลตฟอร์มของเราด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร.

Test With TikTok คืออะไร

Test With TikTok คือโครงการริเริ่มที่สนับสนุนให้เกิดการทดลองในกลุ่มนักการตลาด ช่วยให้แบรนด์ผู้ลงโฆษณาในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยโซลูชันของ TikTok และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด ของคุณ เราทำงานร่วมกับคุณเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนและเตรียมกลุ่มเป้าหมายสำหรับสิ่งที่คุณต้องการ จะสื่อสารบนแพลตฟอร์มอื่นๆ เราจะแชร์เทคนิคและเคล็ดลับการพัฒนาแบรนด์ เพิ่มยอดขาย และขยายธุรกิจของคุณบน TikTok ในการเปิดตัวชุดเครื่องมือนี้ เราได้ทำงานร่วมกับ Dentsu SEA เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มและทำให้.

โซลูชันบนแพลตฟอร์มของเราสร้างประโยชน์ได้มากที่สุด โพสต์แรกนี้เป็นการสำรวจว่าแบรนด์ต่างๆ จะได้ประโยชน์จาก วิธีใดมากกว่ากัน ระหว่างการกำหนดเป้าหมายผู้ชมแบบกว้างหรือแบบแบ่งกลุ่มด้วย In-Feed Ads บน TikTok กรอกคำตอบและคำแนะนำด้านล่าง

การกำหนดเป้าหมายผู้ชมแบบกว้างทำผลงานได้ดีกว่าแบบแบ่งกลุ่ม 

เราทำงานร่วมกับมีเดียเอเจนซี่อย่าง Dentsu และพบว่าการกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ชมที่กว้างขึ้นด้วย In-Feed Ads ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับการกำหนดเป้าหมายแบบแบ่งกลุ่มในหลายตัวชี้วัด.

ออกแบบการทดสอบ

Dentsu ทำงานร่วมกับแบรนด์ผู้ลงโฆษณา 10 เจ้าเพื่อทดสอบและเปรียบเทียบวิธีการกำหนดเป้าหมายแบบกว้างและแบบแบ่งกลุ่ม เพื่อพิสูจน์ว่าวิธีใดให้ประสิทธิภาพแคมเปญสูงกว่า เราออกแบบการทดสอบ A/B ด้วยเครื่องมือการทดสอบแยก (Split Test) โดยสร้างแคมเปญทั้งสองรูปแบบสำหรับแบรนด์ผู้ลงโฆษณาแต่ละเจ้า ทั้งสองแคมเปญมีกำหนดเวลา ประเภทการเสนอราคา ราคาเสนอ และวิดีโอโฆษณาเหมือนกัน ตัวแปรเดียวที่ต่างกันคือวิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย.

สำหรับข้อมูลอ้างอิง การกำหนดเป้าหมายแบบกว้างคือการให้ระบบของ TikTok สำรวจกลุ่มผู้ชมต่างๆ เพื่อค้นหา กลุ่มที่ดีที่สุดตามวัตถุประสงค์ที่แบรนด์ผู้ลงโฆษณากำหนด (เช่น จำนวนการเข้าถึง จำนวนผู้เข้าชม หรือยอดการติดตั้งแอป) ในขณะที่การกำหนดเป้าหมายแบบแบ่งกลุ่มคือการที่แบรนด์ผู้ลงโฆษณาเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงไว้ล่วงหน้า

เจาะลึกผลลัพธ์

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้างให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในทุกตัวชี้วัด ได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC), ค่าใช้จ่ายต่อการติดตั้ง (CPI), ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงโฆษณาหนึ่งพันครั้ง (CPM) และค่าใช้จ่ายต่อคนที่ เข้าถึง (CPR) เมื่อเปรียบเทียบกับการกำหนดเป้าหมายแบบแบ่งกลุ่ม ไม่ว่าวัตถุประสงค์ของแคมเปญ คืออะไร การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้างให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอ ข้อคิดที่สำคัญคือ:

การจำกัดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลงอาจจำกัดการเข้าถึง 

สำหรับแบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าถึง การกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมที่กว้างขึ้นพบว่า CPM ลดลง 20% เมื่อเทียบกับแบบแบ่งกลุ่ม สรุปคือใช้เงินน้อยลงแต่เข้าถึงผู้คนมากขึ้น แต่สำหรับ บางแบรนด์ การกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมเฉพาะกลุ่มอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับเป้าหมายในระยะยาว ท้ายที่สุดแล้วคือต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างขนาดผู้ชมและ CPM เนื่องจากการเข้าถึงผู้ชม เฉพาะกลุ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ CPM เพิ่มขึ้น.

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้างทำให้ CPC และ CPI ลดลง

 สำหรับแบรนด์ผู้ลงโฆษณาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม พบว่า CPC ลดลงถึง

55% เมื่อกำหนด กลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง และได้อัตราการคลิกผ่านสูงขึ้น เมื่อเทียบกับการกำหนดเป้าหมายแบบแบ่งกลุ่ม.

แบรนด์ผู้ลงโฆษณาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดการติดตั้งแอป พบว่า CPI ต่ำลงเมื่อกำหนดเป้าหมายผู้ชม กว้างขึ้น โดยผลลัพธ์นี้เป็นเช่นนี้เสมอไม่ว่าแบรนด์ผู้ลงโฆษณาจะใช้กลยุทธ์การเสนอแบบค่าใช้จ่ายต่ำสุดหรือ ค่าใช้จ่ายสูงสุด

วิธีปลดล็อกศักยภาพโฆษณาของคุณบน TikTok

แบรนด์ผู้ลงโฆษณามักคิดว่าการคัดลอกการตั้งค่าการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเดิมจากแพลตฟอร์มอื่นจะช่วยให้ ทำงานง่ายขึ้น แต่ความจริงแล้วอาจส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายแคบลงและพลาดกลุ่มผู้ใช้ใหม่ที่มีส่วนร่วมและมี โอกาสเป็นลูกค้าบน TikTok

ตัวอย่างเช่น ในแคมเปญการทดสอบสำหรับแบรนด์เทคโนโลยีทางการเงิน ความสนใจด้านเสื้อผ้าและ เครื่องประดับ รวมถึงการดูแลความงามและการดูแลตนเองอยู่ในกลุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดา กลุ่มโฆษณาที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแบรนด์ผู้ลงโฆษณาคัดลอกสิ่งที่เรียนรู้ มาจากแพลตฟอร์มมีเดียอื่นๆ กลุ่มเหล่านี้จึงไม่ถูกรวมอยู่ในกลุ่มโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายแบบแบ่งกลุ่ม ส่งผลให้ CPI สูงขึ้นสำหรับกลุ่มนั้น

มาสร้างกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการทดสอบ

1. เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายแบบกว้างตามข้อมูลประชากร

หลีกเลี่ยงการจำกัดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง ปล่อยให้แคมเปญได้สำรวจกลุ่มผู้ชมต่างๆ ที่เหมาะกับวิดีโอโฆษณาของคุณ

2. วิเคราะห์ประสิทธิภาพของกลุ่มผู้ชมต่างๆ

ฟีเจอร์การแบ่งกลุ่มผู้ชมของเราจะให้ข้อมูลประสิทธิภาพของแต่ละกลุ่มความสนใจและพฤติกรรม ทั้งในร ะดับแคมเปญ ระดับกลุ่มโฆษณา และระดับโฆษณา คุณสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกลุ่มผู้ชมต่างๆ จากแคมเปญที่มี

3. ปรับแต่งการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับแคมเปญในอนาคต

ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแคมเปญ TikTok ที่ผ่านมาสร้างกลุ่มโฆษณาเพิ่มเติมที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่ม ความสนใจ/พฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากผู้ชมที่มีความสนใจ/พฤติกรรมบางกลุ่มอาจ มีขนาดเล็กเกินไปที่จะขยายผล คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการจำกัดผู้ชมเป้าหมายที่แคบเกินไป

ถึงเวลาแล้วที่จะคิดแบบ TikTok-first

จากสิ่งที่ได้ค้นพบนี้ แบรนด์ผู้ลงโฆษณาควรพร้อมที่จะละทิ้งแนวทางปฏิบัติที่เรียนรู้มาจากแพลตฟอร์มอื่น และคิดแบบ TikTok-first คอมมูนิตี้ที่มีส่วนร่วมและโซลูชันโฆษณาที่เป็นนวัตกรรมใหม่บน แพลตฟอร์มนี้เพิ่มโอกาสในการปลดล็อกศักยภาพแคมเปญของคุณอย่างเต็มที่ด้วยวิธีการที่หลากหลาย

คอยติดตามข้อมูลอัปเดตและคำแนะนำเพิ่มเติมจาก Test with TikTok

อ่านกรณีศึกษาเพิ่มเติม ที่นี่

ลงทะเบียน เพื่อเริ่มโฆษณาบน TikTok ภายในไม่กี่นาที

เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Dentsu X TikTok

Dentsu และ TikTok สร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อผลักดันความเป็นเลิศด้านมีเดียและธุรกิจ การค้าให้แก่ลูกค้า โดยความร่วมมือดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำให้ลูกค้าของ Dentsu ได้รับประโยชน์จากจุดแข็งของ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มโฆษณา และทำให้เกิดศักยภาพสูงสุด ในด้านธุรกิจการค้า ความคิดสร้างสรรค์ และการตลาดของครีเอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ของ แบรนด์ในวงกว้าง โปรแกรม 'Test with TikTok' เป็นส่วนสำคัญของความร่วมมือนี้และเป็นเครื่องมือ ในการทดสอบประสิทธิภาพและสมมติฐานทางธุรกิจต่างๆ บนแพลตฟอร์ม TikTok

ลิงก์ Anchor บนโครงสร้างการทดสอบ