การโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

การเริ่มต้นใช้กลยุทธ์การโฆษณาเป็นครั้งแรกในการโฆษณาธุรกิจอาหารอาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เจ้าของธุรกิจอาหารขนาดเล็กต่างไม่แน่ใจว่าต้องเริ่มทำอะไรก่อนดี ระหว่างจัดการธุรกิจในแต่ละวันหรือทำความเข้าใจวิธีการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล แต่เรามีข่าวดีที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจทำการตลาดได้ง่ายๆ TikTok ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ลงโฆษณาอาหารแล้วได้ผลตอบรับดีเป็นอย่างมาก โดยผู้ใช้ TikTok ถึง 72% กล่าวว่าพวกเขาลองใช้สินค้าใหม่หรือลองซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่อยู่บ่อยครั้งตั้งแต่ที่ใช้งาน TikTok และผู้ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งก็กล่าวว่าพวกเขาลองชิมขนมเป็นครั้งแรก หลังจากที่ดูวิดีโอของครีเอเตอร์หรือวิดีโอการแนะนำสินค้าบน TikTok¹

คู่มือนี้จะแนะนำข้อมูลทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการโฆษณาธุรกิจอาหารของคุณบน TikTok ตั้งแต่คอนเซ็ปต์พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูงที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้านค้าของคุณได้จริง

จริงๆ แล้วการโฆษณาอาหารคืออะไร

การโฆษณาอาหารเป็นมากกว่าแค่การแสดงภาพสินค้าให้ผู้ชมได้เห็น คุณจะต้องทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ารู้สึกอินกับสินค้าด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ นำเสนอคุณค่าที่สินค้าของคุณมอบให้ซึ่งหาไม่ได้จากสินค้าอื่น และทำให้ลูกค้าไว้วางใจในสินค้าที่คุณนำเสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน TikTok การโฆษณาอาหารใช้การนำเสนอภาพบนแพลตฟอร์มและการโต้ตอบทางสังคมเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่จริงใจกับกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ

การโฆษณาอาหารในสมัยใหม่นั้นเปลี่ยนแปลงจากวิธีโฆษณาแบบเดิมๆ เป็นอย่างมาก แทนที่จะพึ่งพาโฆษณาที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเพียงอย่างเดียว แบรนด์อาหารที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันต่างใช้คอนเทนต์เบื้องหลังแบบเรียลๆ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้สัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตนเอง ผู้ใช้ TikTok ชอบคอนเทนต์ที่มีความจริงใจและเป็นธรรมชาติประเภทนี้ ดังนั้นแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการโฆษณาธุรกิจอาหารขนาดเล็ก

นอกจากนี้ รูปแบบที่มีความเฉพาะตัวของแพลตฟอร์มช่วยให้คุณนำเสนอขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ไม่ว่าคุณจะสาธิตเทคนิคการทำอาหาร เผยเบื้องหลังในการจัดหาวัตถุดิบ หรือแชร์ฟีดแบ็กของลูกค้า คอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นของ TikTok ก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมอย่างที่ภาพนิ่งไม่สามารถเทียบได้

สิ่งที่ทำให้ TikTok สามารถโฆษณาสินค้าอาหารแล้วได้ผลตอบรับดีเยี่ยมก็คือแนวทางการโฆษณาที่อาศัยชุมชน ผู้คนในชุมชน TikTok ไม่ได้เพียงแค่ดูคอนเทนต์เฉยๆ เพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนร่วมกับเทรนด์ต่างๆ แชร์ประสบการณ์ของตัวเอง และสร้างวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าที่ตนเองชื่นชอบ ซึ่งการมีส่วนร่วมแบบออร์แกนิกนี้ได้กลายเป็นการทำการตลาดแบบปากต่อปากโดยตรง ซึ่งการโฆษณาแบบเดิมๆ ทำให้เกิดขึ้นได้ยาก

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กแล้ว วิธีการนี้ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างมาก เพราะคุณสามารถแข่งขันกับแบรนด์ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ โดยเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติและจริงใจ สายสัมพันธ์กับผู้คนในพื้นที่ และบอกเล่าเรื่องราวเฉพาะตัวที่ตรงใจผู้คนในชุมชน

การพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์

การสร้างกลยุทธ์การโฆษณาอาหารที่มีประสิทธิภาพบน TikTok จะต้องอาศัยความเข้าใจทั้งเรื่องเป้าหมายทางธุรกิจและพฤติกรรมของผู้ชมบนแพลตฟอร์ม ความสำเร็จบน TikTok มาจากการลงโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ การนำเสนอความเป็นธรรมชาติและความจริงใจ รวมถึงการลงโฆษณาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมอย่างมีกลยุทธ์

ให้เริ่มต้นด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์หลักของคุณ คุณต้องการที่จะเพิ่มปริมาณลูกค้าที่เข้ามาที่หน้าร้าน เพิ่มยอดคำสั่งซื้อออนไลน์ หรือทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์จำหน่ายสินค้าอาหารของคุณ เพราะเป้าหมายแต่ละอย่างต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ในพื้นที่ที่ต้องการเพิ่มยอดขายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ กลยุทธ์ของคุณจะต้องเน้นไปที่การลงคอนเทนต์ในวันพฤหัสและวันศุกร์ โดยนำเสนอเมนูสุดพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ที่ดูแปลกใหม่ ส่วนบริการส่งอาหารอาจต้องเน้นไปที่ความสะดวกและความหลากหลายของเมนูอาหารตลอดทั้งสัปดาห์

ปฏิทินคอนเทนต์ของคุณควรจัดสรรปริมาณโพสต์โปรโมทและโพสต์ที่นำเสนอประโยชน์ต่อลูกค้าให้สมดุล โดยกฎ 80/20 จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดี คอนเทนต์ของคุณ 80% ควรนำเสนอประโยชน์ ความบันเทิง หรือให้ความรู้ ส่วนคอนเทนต์อีก 20% สามารถเป็นการโปรโมทโดยตรงได้ ซึ่งคอนเทนต์ที่คุณลงอาจรวมถึงการสอนสูตรทำอาหาร การเน้นโปรโมทวัตถุดิบ ฟุตเทจเบื้องหลังในห้องครัว คำรับรองจากลูกค้าจริง และการมีส่วนร่วมกับเทรนด์ โปรดดูกรณีศึกษาจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็กเพื่อดูวิธีที่แบรนด์อื่นๆ สร้างคอนเทนต์

หน้า For You ของ TikTok จะเน้นนำเสนอวิดีโอที่กระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นให้เน้นสร้างวิดีโอที่กระตุ้นให้ผู้ชมแสดงความคิดเห็น แชร์ และมีอัตรารับชมจนจบสูง ให้เริ่มต้นวิดีโอด้วยฮุคใน 3 วินาทีแรก ใช้เสียงติดเทรนด์อย่างมีกลยุทธ์ และใส่ Call to Action ที่ชัดเจนเสมอ

การจัดสรรงบประมาณบน TikTok นั้นแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ คุณสามารถสร้างการเข้าถึงให้สูงได้โดยไม่ต้องใช้การโฆษณาผ่านช่องทางสื่อแบบชำระเงิน แต่การใช้คอนเทนต์ออร์แกนิกควบคู่กับโฆษณาที่มีการกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สูงขึ้น

ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ประสบความสำเร็จนั้นคือการสร้างชุดคอนเทนต์ตามธีม ยกตัวอย่างเช่น สูตรอาหาร "ที่ไม่มีเนื้อสัตว์สำหรับวันจันทร์", "เคล็ดลับลดของเหลือทิ้งในวันพุธ" หรือ "วัตถุดิบน่าสนใจในวันศุกร์" คอนเทนต์เหล่านี้จะทำให้ผู้ชมของคุณมีคอนเทนต์ให้ตั้งตารอ ทั้งยังทำให้การสร้างคอนเทนต์ของคุณเป็นระบบมากขึ้น

โซลูชันโฆษณาสำหรับแบรนด์อาหาร

การโฆษณาผ่านช่องทางสื่อดิจิทัลบน TikTok ทำให้แบรนด์อาหารสามารถเลือกวิธีในการเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพได้หลากหลายวิธี เครื่องมือโฆษณาของแพลตฟอร์มได้รับการออกแบบมาให้ธุรกิจขนาดเล็กใช้งานได้ ทั้งยังมาพร้อมการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำซึ่งแบรนด์ขนาดใหญ่ต้องการใช้งาน

Spark Ads ช่วยให้คุณโปรโมทคอนเทนต์ออร์แกนิกที่มีอยู่ซึ่งได้รับผลตอบรับดีอยู่แล้ว รวมถึงคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ของ TikTok เทคนิคนี้ใช้งานได้ดีเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจอาหาร เพราะคุณสามารถหาได้ว่าสูตร โมเมนต์เบื้องหลัง หรือฟีดแบ็กของลูกค้าแบบใดที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าของคุณมากที่สุด จากนั้นก็เพิ่มการเข้าถึงผ่านการโปรโมทแบบชำระเงิน

ความสามารถในการกำหนดเป้าหมายบน TikTok นั้นมีประสิทธิภาพแต่ก็ใช้งานได้ง่าย คุณสามารถกำหนดเป้าหมายตามกลุ่มประชากร ความสนใจ พฤติกรรม หรือแม้แต่กลุ่มผู้ชมที่กำหนดเองซึ่งสร้างจากข้อมูลลูกค้าที่คุณมีอยู่

การกำหนดเป้าหมายตามที่ตั้งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารและธุรกิจอาหารในพื้นที่ การกำหนดเป้าหมายตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของ TikTok ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในละแวกร้านค้าของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าภายในพื้นที่จัดส่งหรือระยะที่ลูกค้าขับรถถึง โดยเมื่อใช้ร่วมกับการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากร คุณก็สามารถเน้นใช้งบประมาณกับผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้ามากที่สุดได้

นอกจากนี้ ระบบติดตามกิจกรรมของแพลตฟอร์มยังช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าโฆษณาใดช่วยเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริงได้ เมื่อคุณติดตั้งพิกเซลของ TikTok และ API กิจกรรม คุณก็จะสามารถติดตามคอนเวอร์ชัน เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการดำเนินการตามที่ต้องการ และคำนวณผลตอบแทนจากค่าโฆษณาได้อย่างแม่นยำ

การสร้างวิดีโอสำหรับโฆษณา TikTok จะต้องใช้วิธีต่างๆ ที่แตกต่างจากการโฆษณาแบบเดิมๆ โฆษณาอาหารที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนั้นดูเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยโฆษณาเหล่านี้มักจะเริ่มต้นด้วยปัญหาที่ทุกคนเคยเจอ ("ควรทำอะไรกินตอนมื้อเย็นดี") และนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่อาศัยสินค้าหรือบริการของคุณ โฆษณาที่ได้ผลตอบรับดีที่สุดจะใส่เสียงติดเทรนด์ เอฟเฟกต์ยอดฮิต และรูปแบบคอนเทนต์บน TikTok ในปัจจุบันเพื่อนำเสนออาหารของคุณในรูปแบบที่ดูน่ากิน

คอนเซ็ปต์ของชิ้นงานโฆษณาในการโฆษณาอาหาร

คอนเซ็ปต์ของชิ้นงานโฆษณาบน TikTok จะได้ผลตอบรับดีเมื่อมีการนำเสนออย่างเป็นธรรมชาติ มีการบอกเล่าเรื่องราว และมีการมีส่วนร่วมกับเทรนด์ แบรนด์อาหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มเข้าใจว่าการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาน้ันไม่ต้องอาศัยเครื่องมือราคาแพงหรือการผลิตวิดีโอระดับมืออาชีพ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจว่าชิ้นงานโฆษณาแบบใดนั้นตรงใจผู้คนในชุมชนของ TikTok

ซึ่งคอนเทนต์สูตรอาหารยังเป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่วิธีการนำเสนอนั้นก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้ใช้ TikTok ชอบการสาธิตสูตรอาหารแบบเร็วๆ ที่ดูน่าสนใจซึ่งมาพร้อมรายการวัตถุดิบและเวลาที่ใช้ในการทำมากกว่าการนำเสนอบทช่วยสอนแบบทีละขั้นตอน ส่วนรูปแบบคอนเทนต์ "เผยสูตรอาหาร" ที่มีการนำเสนอวัตถุดิบก่อนแล้วค่อยตามด้วยการนำเสนอหน้าตาอาหารที่เสร็จแล้วมักจะได้รับผลตอบรับที่ดี เพราะจะทำให้ผู้ชมตั้งตารอดูอาหารที่จะทำเสร็จ และกระตุ้นให้ผู้ชมรับชมคอนเทนต์จนจบ

คอนเทนต์เบื้องหลังทำให้ธุรกิจอาหารมีโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสร้างความไว้วางใจและสายสัมพันธ์กับผู้ชม เพราะผู้ชมชอบดูวิธีทำอาหารที่ตนเองทาน ดูแหล่งที่มาของวัตถุดิบ และดูผู้คนที่มีส่วนร่วมอยู่เบื้องหลังแบรนด์ที่ตนเองชื่นชอบ ร้านเบเกอรี่ขนาดเล็กอาจนำเสนอกระบวนการเตรียมขนมในตอนเช้าตรู่ ส่วนร้านอาหารก็สามารถเน้นนำเสนอขั้นตอนในการสร้างสรรค์อาหารเมนูใหม่ของเชฟได้

การมีส่วนร่วมกับเทรนด์จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมแบบก้าวกระโดดเมื่อใช้อย่างรอบคอบ ธุรกิจอาหารสามารถปรับเทรนด์ TikTok ยอดนิยมเพื่อนำเสนอสินค้าของตนเองได้อย่างสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถปรับเทรนด์ "บอกฉันว่าคุณเป็น [เติมคำในช่องว่าง] โดยไม่บอกฉันว่าคุณเป็น [เติมคำในช่องว่าง]" ให้กลายเป็น "บอกฉันว่าคุณชอบกินพิซซ่า โดยไม่บอกฉันว่าคุณชอบกินพิซซ่า) ได้ และนำเสนอร้านอาหารของคุณให้ลูกค้าที่ชื่นชอบพิซซ่ามากได้เห็น

การบอกเล่าเรื่องราวจะเปลี่ยนคอนเทนต์อาหารธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการบรรยายข้อมูลที่น่าสนใจ แชร์เรื่องราวเบื้องหลังเมนูเด็ดของคุณ อธิบายเหตุผลที่คุณเริ่มต้นทำธุรกิจอาหาร หรือเน้นให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า สายสัมพันธ์ที่เป็นกันเองนี้จะช่วยทำให้ผู้ชมรู้สึกอิน และส่งผลให้พวกเขากลายเป็นลูกค้าประจำและแนะนำธุรกิจของคุณแบบปากต่อปาก

คอนเทนต์ให้ความรู้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ของคุณดูมีความรู้เชี่ยวชาญ โดยที่ทำให้ผู้ชมของคุณได้รับประโยชน์ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งคอนเทนต์ประเภทนี้ ได้แก่ เคล็ดลับการทำอาหาร การอธิบายวัตถุดิบ ข้อมูลโภชนาการ หรือแนวทางในการทำให้อาหารปลอดภัย คอนเทนต์ให้ความรู้มักจะมีอายุการใช้งานนานการโฆษณาที่อ้างอิงเทรนด์ โดยจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้หลายเดือนหลังจากเผยแพร่

คอนเทนต์ตามฤดูกาลและทันสถานการณ์จะทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในกระแสตลอดทั้งปี วางแผนทำคอนเทนต์สำหรับช่วงวันหยุดเทศกาล อีเวนต์ในพื้นที่ วัตถุดิบตามฤดูกาล และเทศกาลทางวัฒนธรรมที่สำคัญกับผู้ชมของคุณ ร้านค้าแบบ Farm to Table อาจสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนร้านของหวานอาจสร้างคลิปสอนสูตรทำขนมเฉพาะเทศกาลวันหยุด

แคมเปญคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างจะกระตุ้นให้ลูกค้าของคุณสร้างคอนเทนต์ที่กล่าวถึงแบรนด์ของคุณ วิธีกาารนี้ใช้ได้ผลดีเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจอาหาร เพราะผู้คนชอบแชร์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารของตน กระตุ้นให้ลูกค้าเช็คอิน หรือจัดการแข่งขันที่กระตุ้นให้ลูกค้าแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับจากการรับประทานอาหารของคุณ

หัวใจสำคัญที่ช่วยให้คอนเซ็ปต์ของชิ้นงานโฆษณาประสบความสำเร็จคือแนวทางการสื่อสารของแบรนด์ที่มีความสม่ำเสมอ โดยต้องปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของ TikTok ด้วย แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวค้นพบวิธีต่างๆ ที่จะมีส่วนร่วมกับเทรนด์บนแพลตฟอร์มอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ยังรักษาตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์และมูลค่าของแบรนด์เอาไว้ได้

คู่มือสำหรับแบรนด์ CPG ของ TikTok มอบเสนอแรงบันดาลใจในการสร้างชิ้นงานโฆษณาเพิ่มเติม ซึ่งปรับให้เข้ากับธุรกิจอาหารที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มผลลัพธ์บนแพลตฟอร์มให้สูงสุด

ร่วมมือกับครีเอเตอร์เพื่อพัฒนาการทำการตลาดธุรกิจอาหาร

การร่วมมือกับครีเอเตอร์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มการเข้าถึงของคุณบน TikTok การร่วมมือกับครีเอเตอร์ของ TikTok แตกต่างจาการทำการตลาดโดยอาศัยอินฟลูเอนเซอร์แบบเดิมๆ โดยจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ดีที่สุดเมื่อนำเสนออย่างเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับทั้งกลุ่มผู้ชมของครีเอเตอร์และคุณค่าที่แบรนด์ของคุณยึดถือ

หารหาครีเอเตอร์ที่เหมาะสมเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพฤติกรรมการรับชมของกลุ่มเป้าหมายหลัก ให้มองหาครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามซึ่งมีลักษณะตรงกับกลุ่มประชากรลูกค้าที่เหมาะสม และสร้างคอนเทนต์ในสไตล์ที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณ อินฟลูเอนเซอร์รายเล็กที่มียอดผู้ติดตาม 10,000 ถึง 100,000 คนมักจะทำให้ได้อัตราการมีส่วนร่วมที่สูงกว่า และทำให้ธุรกิจอาหารขนาดเล็กสามารถร่วมมือได้ด้วยง่ายกว่าอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน

เมื่อคุณประเมินพาร์ทเนอร์ครีเอเตอร์ที่น่าจะสร้างผลลัพธ์ได้ดี ให้ดูอัตราการมีส่วนร่วม คุณภาพของคอนเทนต์ และดูว่ากลุ่มผู้ชมนั้นเป็นผู้ชมจริงๆ หรือไม่ ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามที่มีส่วนร่วม 50,000 คนซึ่งโต้ตอบกับคอนเทนต์อาหารอย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มที่จะทำให้ธุรกิจได้ผลลัพธ์ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 200,000 คนแต่ไม่มีมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ Creator Marketplace ของ TikTok มีเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณค้นหาครีเอเตอร์ที่เหมาะกับสินค้าเฉพาะกลุ่มของคุณและวิเคราะห์ข้อมูลประชากรของผู้ชมของครีเอเตอร์

โดยรูปแบบการมีส่วนร่วมนั้นมีหลากหลายแบบ ซึ่งอยู่กับเป้าหมายและงบประมาณของคุณ การส่งสินค้าไปให้ทดลองใช้คือการส่งสินค้าไปให้ครีเอเตอร์เพื่อแลกกับรีวิวแบบตรงไปตรงมาหรือการนำเสนอสินค้าในคอนเทนต์ วิธีที่ใช้ต้นทุนไม่มากนี้ได้ผลลัพธ์ดีสำหรับสินค้าอาหารแบบบรรจุหีบห่อหรือบริการจัดส่งอาหาร โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนคือการว่าจ้างให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ที่นำเสนอแบรนด์ของคุณโดยเฉพาะ ในขณะที่โปรแกรมแบรนด์แอมบาสเดอร์ในระยะยาวจะสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่สร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่ากับกลุ่มผู้ชมของครีเอเตอร์

การร่วมมือกันสร้างคอนเทนต์มักจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด แทนที่จะขอให้ครีเอเตอร์โปรโมทสินค้าของคุณเฉยๆ ให้คุณชวนให้ครีเอเตอร์เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคอนเซ็ปต์ของคอนเทนต์ที่นำเสนออาหารของคุณอย่างเป็นธรรมชาติโดยใช้สไตล์คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ของพวกเขา ครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์อาจจะโปรโมทขนมเพื่อสุขภาพของคุณในขณะที่นำเสนอกิจวัตรยามเช้า ในขณะที่ครีเอเตอร์สายทำอาหารอาจจะพัฒนาสูตรอาหารพิเศษโดยใช้วัตถุดิบของคุณ

การวิเคราะห์ชุมชนที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มของ TikTok เผยให้เห็นว่าชุมชนที่เกี่ยวข้องกับอาหารอย่าง #foodtok, #mukbang และ #storytime ช่วยเปิดโอกาสมากมายให้ธุรกิจอาหารที่ต้องการจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมอย่างเป็นธรรมชาติสามารถร่วมมือกับครีเอเตอร์ได้

ซึ่งการร่วมมือกับครีเอเตอร์ในพื้นที่นั้นมีประโยชน์สำหรับธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจบริการอาหารเป็นพิเศษ ให้ร่วมมือกับบล็อกเกอร์สายอาหารในพื้นที่ อินฟลูเอนเซอร์ด้านไลฟ์สไตล์ หรือแม้แต่ธุรกิจอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมกันเพื่อโปรโมทแบบข้ามแบรนด์และเจาะกลุ่มผู้ชมรายใหม่ภายในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ ซึ่งผู้ชมมักจะรู้สึกว่าการร่วมมือเหล่านี้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และสามารถเพิ่มยอดลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านค้าของคุณได้ในทันที

การติดตามประสิทธิภาพสำหรับการร่วมมือกับครีเอเตอร์จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ล่วงหน้า ให้กำหนดตัวชี้วัดที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเข้าถึง การมีส่วนร่วม การเข้าชมเว็บไซต์ หรือคอนเวอร์ชันยอดขาย เพื่อใช้วัดความสำเร็จ เมื่อใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ของ TikTok ร่วมกับรหัสโปรโมชันหรือลิงก์ที่ติดตามได้ คุณจะสามารถทำความเข้าใจได้ว่าการร่วมมือใดทำให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนมากที่สุด

การสร้างสายสัมพันธ์ในระยะยาวกับครีเอเตอร์มักจะมีประโยชน์มากกว่าการร่วมมือกันแค่เพียงครั้งเดียว ครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบสินค้าของคุณจริงๆ จะกลายเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ที่จริงใจ และสร้างคอนเทนต์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่องแทนที่จะเหมือนสร้างคอนเทนต์ตามคำสั่ง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์เหล่านี้ยังช่วยมอบข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าของคุณ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความชอบของกลุ่มเป้าหมายหลัก

ประเด็นด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกำหนดจะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อความร่วมมือกับครีเอเตอร์พัฒนามากขึ้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งหมดระบุการเปิดเผยข้อมูลอย่างเหมาะสม เป็นไปตามแนวทาง FTC และปฏิบัติตามนโยบายคอนเทนต์ที่กล่าวถึงแบรนด์ของ TikTok สัญญาที่ชัดเจนซึ่งระบุความคาดหวัง สิ่งที่ต้องส่งมอบ และสิทธิ์ในการใช้งานจะช่วยปกป้องทั้งสองฝ่ายและรับประกันว่าการร่วมมือนั้นจะประสบความสำเร็จ

การลงทุนในการร่วมมือกับครีเอเตอร์มักต้องใช้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายด้านสินค้าสำหรับแคมเปญแจกสินค้าตัวอย่าง ไปจนถึงเงินจำนวนหลายพันดอลลาร์สำหรับการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมักสร้างคอนเทนต์ที่ยังคงสร้างผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องแม้จะผ่านช่วงที่มีการร่วมมือตอนเริ่มแรกไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นลงทุนทางการตลาดที่คุ้มค่า