แนวทางปฏิบัติสำหรับแคมเปญแอป Smart+

แนวทางปฏิบัติต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้แคมเปญแอป Smart+ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เคล็ดลับในการเริ่มต้นใช้งานแคมเปญแอป Smart+

• ระยะเวลาแคมเปญ: ให้ Smart+ ทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันเพื่อให้ผ่านช่วงการเรียนรู้ (กิจกรรมคอนเวอร์ชันสูงสุด 50 รายการ) พยายามหลีกเลี่ยงการหยุดชั่วคราวหรือการเปลี่ยนแปลงแคมเปญ

• งบประมาณของแคมเปญและการเสนอราคา:

  • กลยุทธ์การเสนอราคาเพดานต้นทุน (แนะนำให้ใช้กับ Smart+ สำหรับ Android ส่วนแคมเปญเพดานต้นทุนซึ่งใช้กับ Smart+ สำหรับ iOS จะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้):

    • งบประมาณ: เราขอแนะนำให้เพิ่มงบประมาณมากกว่า 3 เท่าของงบประมาณแคมเปญรายวันตามปกติ หรืออย่างน้อย 30 เท่าของต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) เป้าหมาย

    • CPA เป้าหมาย: เราขอแนะนำให้ใช้ CPA เดิมของช่วง 7 วันที่ผ่านมา

  • กลยุทธ์การเสนอราคาแบบนำเสนอโฆษณาในระดับสูงสุด:

    • งบประมาณ: เราขอแนะนำให้เริ่มด้วยงบประมาณรายวันอย่างน้อย 10 เท่าของ CPA ที่ผ่านมา

• ปริมาณชิ้นงานโฆษณา: เราขอแนะนำให้เพิ่มเนื้อหาชิ้นงานโฆษณาขั้นต่ำ 4 ถึง 6 รายการในระหว่างการสร้างแคมเปญเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีชิ้นงานโฆษณาเพียงพอต่อการนำเสนอโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ

• เครื่องมือสร้างโฆษณาแบบหลายภาษา: เราขอแนะนำให้ใช้การตั้งค่าเครื่องมือสร้างโฆษณาแบบหลายภาษาตามค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องและประสิทธิภาพของชิ้นงานโฆษณา แม้ในกรณีที่เป็นแคมเปญสำหรับตลาดเดียว

เคล็ดลับในการรักษาระดับประสิทธิภาพของแคมเปญแอป Smart+

หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแคมเปญของคุณผ่านช่วงการเรียนรู้ 7 วันแล้ว

• ตรวจสอบความเบื่อหน่ายโฆษณาในแคมเปญ ความเบื่อหน่ายโฆษณาในแคมเปญมีตัวบ่งชี้ที่เห็นได้ชัดดังนี้

  • CPA ของแคมเปญเพิ่มขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

  • CPA ของแคมเปญใน 2 วันแรกเกินค่าเฉลี่ยของ CPA มากกว่า 2 เท่า

• การแก้ไขแคมเปญ:

  • เพิ่มชิ้นงานโฆษณาเพิ่มเติมเพื่อรองรับการสร้างโฆษณาใหม่ๆ

  • เพิ่มงบประมาณเพื่อรองรับการสำรวจโฆษณาใหม่ๆ พยายามคงอัตราส่วนระหว่างชิ้นงานโฆษณาต่องบประมาณให้เท่าเดิม

  • สังเกตการปรับปรุงประสิทธิภาพหลังผ่านไปอย่างน้อย 3 วัน

• เปิดตัวแคมเปญแอป Smart+ ของคุณอีกครั้ง: เราขอแนะนำให้พิจารณาตัวเลือกนี้เฉพาะในกรณีที่การแก้ไขแคมเปญที่แนะนำไม่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพเท่านั้น เมื่อใช้งานแคมเปญ Smart+ หลายแคมเปญ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้การตั้งค่าที่แตกต่างกันสำหรับการกำหนดเป้าหมายหรือชิ้นงานโฆษณา

เคล็ดลับในการประเมินประสิทธิภาพแคมเปญเพดานต้นทุนแอป Smart+ สำหรับ Android

• การเสนอราคาเพดานต้นทุน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำหนดมูลค่าที่สมเหตุสมผล โดยใช้ CPA เดิมจาก 7 วันที่ผ่านมาเป็นเกณฑ์มาตรฐาน มูลค่าราคาเสนอที่ต่ำจะส่งผลให้การนำเสนอโฆษณาไม่เพียงพอ

• อัตราส่วนการเสนอราคา: ตรวจสอบประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ รวมถึงอัตราส่วนการเสนอราคา (CPA จริง/มูลค่าราคาเสนอ) หลังจากที่รออย่างน้อย 7 วันเพื่อรอให้มีการส่งกลับข้อมูลคอนเวอร์ชันที่อาจล่าช้า

• อัตราการใช้งบประมาณ: เราไม่แนะนำให้ประเมินประสิทธิภาพแคมเปญเพดานต้นทุนด้วยอัตราการใช้งบประมาณ เพราะอาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยและอาจไม่สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพแคมเปญโดยตรง เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างแคมเปญเพดานต้นทุน Smart+ สำหรับ Android สองแคมเปญ คุณจะสามารถใช้อัตราการใช้งบประมาณเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อการตั้งค่า เช่น งบประมาณ การเสนอราคา การกำหนดเป้าหมายผู้ชม ชิ้นงานโฆษณา และเวลาเริ่ม/หยุดแคมเปญ เหมือนกันทุกประการเท่านั้น

• วิธีการที่สมเหตุสมผลในการเปรียบเทียบแคมเปญเพดานต้นทุน Smart+ กับแคมเปญการนำเสนอในระดับสูงสุด: หากต้องการประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญเพดานต้นทุน Smart+ สำหรับ Android เทียบกับแคมเปญการนำเสนอในระดับสูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้ดูที่ตัวชี้วัดหลังแคมเปญเป็นหลัก เช่น ยอดการใช้จ่าย, CPA จริง, ปริมาณคอนเวอร์ชัน และอัตราส่วนการเสนอราคา (CPA จริง/มูลค่าราคาเสนอ) ตัวอย่างเช่น:

  • เมื่อระดับการใช้จ่ายของแคมเปญเพดานต้นทุนและการนำเสนอในระดับสูงสุดเท่ากัน ผลลัพธ์ที่คาดหมายคือแคมเปญเพดานต้นทุนจะได้รับ CPA ต่ำกว่าและมีปริมาณคอนเวอร์ชันที่สูงกว่า

  • เมื่อ CPA อยู่ที่ระดับเดียวกันสำหรับทั้งแคมเปญเพดานต้นทุนและแคมเปญการนำเสนอในระดับสูงสุด ผลลัพธ์ที่คาดหมายคือแคมเปญเพดานต้นทุนจะมียอดการใช้จ่ายที่สูงกว่าและมีปริมาณคอนเวอร์ชันที่สูงกว่า