วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแคมเปญโฆษณาประมูล

วิธีการ

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ

การวัดผล

สำหรับเว็บไซต์:

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้ง TikTok Pixel หรือ API กิจกรรมเว็บไซต์เพื่อติดตามกิจกรรมบนเว็บไซต์เพื่อวัดการกระทำของลูกค้าของคุณ ใช้พิกเซลเพื่อส่งเหตุการณ์กลับมาให้ได้มากที่สุด (อย่างน้อย เราแนะนำให้ส่งเหตุการณ์อย่างน้อย 3 รายการ เหตุการณ์หนึ่งมาจากขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นท้ายของกระบวนการของคุณ) รวมถึงพารามิเตอร์กิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ให้ส่งพารามิเตอร์มูลค่าการชำระเงินสำเร็จพร้อมกับกิจกรรมการสั่งซื้อเพื่อปรับให้เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า (เว็บ)

ลองใช้การจับคู่ขั้นสูงเพื่อจับคู่กิจกรรมบนเว็บไซต์กับโฆษณาบน TikTok การจับคู่ขั้นสูงสามารถวัดผลได้หลายอุปกรณ์ เบราว์เซอร์ และเซสชันผ่านการระบุแหล่งที่มาแบบหลายเซสชัน กรอบเวลาของการระบุแหล่งที่มาคือ 7 วันหลังการคลิกและ 1 วันหลังการดู เมื่อไม่เปิดใช้งานการจับคู่ขั้นสูง กรอบเวลาของการระบุแหล่งที่มามาตรฐานคือ 1 วันหลังการคลิก การจับคู่ขั้นสูงสามารถขยายการเข้าถึง เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ และวัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงต้นทุนต่อการดำเนินการเฉลี่ย (CPA) ของคุณ และสร้างคอนเวอร์ชันมากขึ้นด้วยงบประมาณเท่าเดิม เรากำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อเปิดใช้งานหน้าต่างแบบกำหนดเองและแบบขยาย โปรดติดต่อ Account Manager ของคุณเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับแอป:

เชื่อมต่อพาร์ทเนอร์การวัดผลทางมือถือ (MMP) กับตัวจัดการโฆษณาบน TikTok และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังส่งต่อกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยัง TikTok คุณสามารถกำหนดค่ากิจกรรมการส่งกลับ MMP ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

-ส่งข้อมูลช่องทั้งหมดกลับไปยัง TikTok วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ ยกเว้นผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณแล้ว และกำหนดเป้าหมายผู้ใช้แอปของคุณใหม่ผ่านทางตัวจัดการโฆษณาบน TikTok

-กิจกรรมที่มีมูลค่า ส่งพารามิเตอร์มูลค่าการสั่งซื้อพร้อมกับกิจกรรมการซื้อเพื่อปรับให้เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพตามมูลค่า

-กิจกรรมการสั่งซื้อ การดูคอนเทนต์ และการเพิ่มลงในรถเข็น ต้องใช้กิจกรรมเหล่านี้เพื่อสร้าง Dynamic Showcase Ads

ด้วยการขยายกิจกรรมและข้อมูลที่คุณส่งกลับไปยัง TikTok คุณจะสามารถระบุและเข้าถึงผู้ใช้ของคุณได้ดียิ่งขึ้น

ตำแหน่ง

การใช้การจัดตำแหน่งอัตโนมัติเพื่อลงโฆษณาในตำแหน่งต่างๆ เช่น TikTok, Pangle และชุดแอปฟีดข่าวจะเพิ่มจำนวนผู้ชมที่มีอยู่ของคุณในทันที และช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนผ่านแพลตฟอร์มและที่ตั้งที่แตกต่างกัน หากสังเกตว่าโฆษณาของคุณทำงานได้ดีกว่าในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ให้ลองใช้การจัดตำแหน่งแบบกำหนดเองเพื่อเรียกใช้โฆษณาในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น

การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อเลือกเกณฑ์การกำหนดเป้าหมาย ให้หลีกเลี่ยงการสร้างกลุ่มผู้ชมที่แคบเกินไป กลุ่มผู้ชมที่แคบอาจทำให้ระบบแสดงโฆษณาได้ยาก ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของโฆษณาผันผวน เป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นด้วยผู้ชมที่กว้างกว่า และปล่อยให้ระบบค้นหาผู้ใช้ที่ดีที่สุดสำหรับโฆษณาของคุณอย่างชาญฉลาด ใช้เครื่องมือประมาณขนาดผู้ชมของเราเพื่อเป็นแนวทางสำหรับขนาดผู้ชมของคุณตามการกำหนดเป้าหมายของคุณ

นอกจากนี้ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงผู้ชมที่ทับซ้อนกัน การทับซ้อนของผู้ชมเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายที่เหมือนกันหรือคล้ายกันสำหรับกลุ่มโฆษณาที่ใช้งานอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งนำไปสู่กลุ่มโฆษณาเหล่านี้ที่แข่งขันกันเอง

วิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการทับซ้อนกันของผู้ชมคือการรวมกลุ่มโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่มีลักษณะทางประชากรที่คล้ายคลึงกัน (เช่น อายุ เพศ และสถานที่ตั้ง) และความสนใจและพฤติกรรม นอกจากนี้ คุณสามารถใช้กลุ่มผู้ชมที่กำหนดเองและกลุ่มผู้ชมที่คล้ายกันเพื่อระบุบุคคลที่คุณต้องการแยกออกจากผู้ชมเป้าหมายของกลุ่มโฆษณาเฉพาะ ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงการกำหนดเป้าหมายคนกลุ่มเดียวกันในกลุ่มโฆษณาหลายกลุ่ม

นอกจากนี้ ให้พิจารณาใช้โซลูชันการกำหนดเป้าหมายอัจฉริยะ (คำแนะนำการกำหนดเป้าหมาย การขยายการกำหนดเป้าหมาย และการกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติ) หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือเพียงแค่ต้องการให้แพลตฟอร์มของเราค้นหาผู้ชมที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แทนที่จะตั้งค่าเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายทั้งหมดด้วยตนเอง

งบประมาณ

หากคุณกำลังใช้กลยุทธ์การเสนอราคาต้นทุนต่ำสุด ให้ลองเพิ่มงบประมาณหากคุณสังเกตเห็นว่าต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) รายวันของคุณต่ำกว่า CPA เป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าคุณจะได้รับผู้ใช้ในราคาต่ำกว่าจำนวนเงินที่คุณยินดีจ่าย นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณมีกลุ่มโฆษณาที่ชนะและพร้อมที่จะปรับขนาดค่าโฆษณาของคุณ

นอกจากนี้ ให้พิจารณาใช้การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณของคุณที่ระดับแคมเปญ แทนที่จะเป็นระดับกลุ่มโฆษณา ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณใช้การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณชุดเดียวกับกลุ่มโฆษณาทั้งหมดที่เป็นของแคมเปญของคุณ แทนที่จะตั้งค่าทีละรายการ

การเสนอราคา

ตรวจสอบว่าคุณมีที่ว่างที่จะเพิ่มราคาเสนอของคุณหรือไม่ ในการทำเช่นนี้ คุณจะต้องดูต้นทุนต่อการดำเนินการเฉลี่ย (CPA) และผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) และเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ด้านประสิทธิภาพโฆษณาของคุณ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณและการเสนอราคา โปรดดูที่ "โซลูชันการเสนอราคาและงบประมาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาประมูล"

ชิ้นงานโฆษณา

แม้ว่ารูปลักษณ์และความรู้สึกของคอนเทนต์ชิ้นงานโฆษณาจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการแสดงโฆษณา แต่การมีเนื้อหาชิ้นงานโฆษณาจำนวนมากก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบสามารถสำรวจได้ว่าผู้ชมของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไร คุณสามารถช่วยระบบระบุโฆษณาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชมเป้าหมายของคุณโดยการสร้างโฆษณาระหว่าง 2 ถึง 5 รายการต่อกลุ่มโฆษณา

เมื่อเพิ่มจำนวนโฆษณาในกลุ่มโฆษณา ระบบจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอโฆษณาเพื่อให้ได้โฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด จากนั้น อัปเดตชิ้นงานโฆษณาของกลุ่มโฆษณาทุกเดือนเป็นอย่างน้อย แต่ควรอัปเดตทุกหนึ่งถึงสองสัปดาห์

ตัวจัดการโฆษณาบน TikTok มีเครื่องมือหลายอย่างที่คุณสามารถใช้สร้างและทดสอบคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ได้อย่างรวดเร็ว:

-การเพิ่มประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วจะรวมเอฟเฟกต์ภาพ เฟรมเปิด และเพลงเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างชิ้นงานโฆษณาสูงสุด 12 รายการจากเนื้อหาวิดีโอเดี่ยว คุณจึงมีโฆษณาเวอร์ชันใหม่หลากหลาย

-การเพิ่มประสิทธิภาพงานโฆษณาอัตโนมัติ (ACO) สามารถช่วยคุณเปิดตัวแคมเปญได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ทดสอบโฆษณาจำนวนมาก และแสดงชิ้นงานโฆษณาที่เหมาะสมให้แก่กลุ่มผู้ชมที่เหมาะสมบน TikTok

-การทดสอบแยกคือฟีเจอร์ระดับแคมเปญที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างการทดสอบ A/B เพื่อระบุเนื้อหาชิ้นงานโฆษณาหรือการตั้งค่ากลุ่มโฆษณาที่ทำงานได้ดีที่สุด เช่น การกำหนดเป้าหมายและการเสนอราคาและการเพิ่มประสิทธิภาพ